"ดร.ก้อง"ชี้ปรับเคอร์ฟิวสั้นลงช่วยวงการกีฬากลับมาคึกคัก - สยามกีฬา

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย รับมติคลายล็อค ปรับเคอร์ฟิวสั้นลง ซึ่งมีผล 16 ต.ค.นี้ ช่วยวงการกีฬาขยับตัวมากขึ้น รับผลดี แผนงาน การจัดกิจกรรมและการแข่งขันเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมปรับกลยุทธ์สอดรับแผนไทยเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ เผยการแก้ไขปัญหาวาด้าแบนไทยยังเดินหน้าต่อเนื่อง ชี้เวลานี้ประสานสิบทิศแบบใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและวาด้า รับปากกกท.ดำเนินการเต็มที่ เพื่อให้วงการกีฬาไทยได้รับการปลดโทษโดยไวที่สุด

จากการที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ "ศบค." ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ผู้อำนวยการ ได้มีการประชุมเมื่อ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมลงมติให้ปรับลดเวลาห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลากลางคืน หรือเคอร์ฟิว โดยขยับจากเดิม 22.00 น. ถึง 04.00 น. มาเป็น 23.00 น. ถึง 03.00 น. และให้มีผลตั้งแต่วันเสาร์ ที่ 16 ต.ค.64

ขณะเดียวกัน สถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬาในพื้นที่เข้มงวดและสูงสุด อนุญาตให้เปิดดำเนินการได้ทุกประเภทกีฬาตามเวลาปกติ ทว่าต้องไม่เกิน 22.00 น. แต่จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม ส่วนการแข่งขันกีฬาจัดได้ แต่ไม่มีผู้ชม กีฬากลางแจ้ง จัดได้ แต่ให้มีผู้ชมไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ชมต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือมี ATK หรือ RT-PCR เป็นลบใน 72 ชม. และกรณีจัดการแข่งขันให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมการกรุงเทพฯพิจารณา รวมถึงพื้นที่ควบคุมสูงสุด เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 4 ทุ่ม และจัดโดยไม่มีผู้ชมการแข่งขัน

เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องดีสำหรับวงการกีฬาไทย เพราะทำให้แผนงานในการด้านการกีฬาของเราสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ทั้งการจัดการแข่งขันกีฬาในประเทศ ที่เป็นรูปแบบของมหกรรมกีฬา อาทิ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาแห่งชาติ ในปี 2565 ซึ่งในปลายปีนี้เอง ก็ต้องเตรียมการจัดรอบคัดเลือกขึ้นแล้ว และยังรวมไปถึงการจัดกีฬาระดับนานาชาติ อาทิ อิฟม่า เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ และจักรยานยนต์เอเชียโรดเรชซิ่ง 2021 เดือนพ.ย. ที่บุรีรัมย์

"การจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาในช่วงระยะเวลาหลังจากนี้ กกท.ได้วางแผนให้สอดคล้องกับแผนนโยบายการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.64 ของรัฐบาลไทยด้วย เชื่อว่าการคลายล็อคในบางส่วนของรอบนี้ จะทำให้การแข่งขันกีฬาภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 กลับมาคึกคัก มีชีวิตชีวามากขึ้น เพราะคนดูมีส่วนร่วมกับการแข่งขันมากขึ้น รวมถึงกิจกรรมและการแข่งขันรายการต่างๆก็กลับมาเดินหน้าได้อีก อย่างไรก็ตามในการจัดกิจกรรมและกีฬา นอกจากจะต้องประสานมายังกกท.แล้ว อำนาจในการพิจารณาขึ้นอยู่กับในแต่ละพื้นที่นั้นในการบังคับใช้มาตรการนั้นๆด้วย"

"ส่วนความคืบหน้ากรณี องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาด้า ที่ประกาศไม่รับรองไทย หลังเรายังสามารถปรับแก้กฎหมายสารกระตุ้นให้สอดคล้องกับวาด้าได้ ในวันศุกร์ 15 ต.ค.64 ผมจะเข้าร่วมประชุมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อชี้แจ้งแก้กฏเป็นรายมาตรากับทางคณะทำงานเลย ซึ่งก็ทำควบอย่างเร่งด่วน ควบคู่ไปกับการชี้รายงานความคืบหน้า ไทม์ไลน์ และกระบวนการต่างๆที่เรากำลังทำ ให้กับวาดารับทราบ ซึ่งเรื่องนี้ ผมจะเป็นคนประสานและพูดคุยกับท่านประธานของวาดาด้วยตนเอง"

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport