กกท.ชี้ลดเคอร์ฟิวช่วยกีฬาไทยขยับตัวมากขึ้น ปรับกลยุทธ์รับแผนเปิดประเทศ - มติชน

กกท.ชี้ลดเคอร์ฟิวช่วยกีฬาไทยขยับตัวมากขึ้น ปรับกลยุทธ์รับแผนเปิดประเทศ

หลังจากที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ประชุมเมื่อ 14 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา พร้อมลงมติให้ปรับลดเวลาห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลากลางคืน หรือเคอร์ฟิว โดยขยับจากเดิม 22.00 น. ถึง 04.00 น. มาเป็น 23.00 น. ถึง 03.00 น. และให้มีผลตั้งแต่วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

ขณะเดียวกัน สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬาในพื้นที่เข้มงวดและสูงสุด อนุญาตให้เปิดดำเนินการได้ทุกประเภทกีฬาตามเวลาปกติ ทว่าต้องไม่เกิน 22.00 น. แต่จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม ส่วนการแข่งขันกีฬาจัดได้ แต่ไม่มีผู้ชม กีฬากลางแจ้ง จัดได้ แต่ให้มีผู้ชมไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ชมต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือมี ATK หรือ RT-PCR เป็นลบใน 72 ชั่วโมง และกรณีจัดการแข่งขันให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมการกรุงเทพฯ พิจารณา รวมถึงพื้นที่ควบคุมสูงสุด เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 4 ทุ่ม และจัดโดยไม่มีผู้ชมการแข่งขัน

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องดีสำหรับวงการกีฬาไทย เพราะทำให้แผนงานในการด้านการกีฬาสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ทั้งการจัดการแข่งขันกีฬาในประเทศ ที่เป็นรูปแบบของมหกรรมกีฬา อาทิ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาแห่งชาติ ในปี 2565 ซึ่งปลายปีนี้ก็ต้องเตรียมการจัดรอบคัดเลือกขึ้นแล้ว และยังรวมถึงการจัดกีฬาระดับนานาชาติ อาทิ อิฟม่า เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ที่ จ.ภูเก็ต และจักรยานยนต์เอเชียโรดเรชซิ่ง 2021 เดือนพฤศจิกายน ที่ จ.บุรีรัมย์

“การจัดกิจกรรม และการแข่งขันกีฬาในช่วงระยะเวลาหลังจากนี้ กกท.ได้วางแผนให้สอดคล้องกับแผนนโยบายการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ของรัฐบาลไทยด้วย ก็เชื่อว่าการคลายล็อกในบางส่วนของรอบนี้ จะทำให้การแข่งขันกีฬาภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 กลับมาคึกคัก มีชีวิตชีวามากขึ้น เพราะคนดูมีส่วนร่วมกับการแข่งขันมากขึ้น รวมถึงกิจกรรมและการแข่งขันรายการต่างๆ ก็กลับมาเดินหน้าได้อีก อย่างไรก็ตาม ในการจัดกิจกรรม และกีฬา นอกจากจะต้องประสานมายัง กกท.แล้ว อำนาจในการพิจารณาก็ขึ้นอยู่กับในแต่ละพื้นที่นั้นในการบังคับใช้มาตรการนั้นๆด้วย”

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนความคืบหน้ากรณี องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า) ที่ประกาศไม่รับรองไทย หลังเรายังสามารถปรับแก้กฎหมายสารกระตุ้นให้สอดคล้องกับวาด้าได้ ในวันศุกร์ 15 ตุลาคม 2564 จะเข้าร่วมประชุมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อชี้แจ้งแก้กฏเป็นรายมาตรากับทางคณะทำงานเลย ซึ่งก็ทำควบอย่างเร่งด่วน ควบคู่ไปกับการชี้รายงานความคืบหน้า ไทม์ไลน์ และกระบวนการต่างๆ ที่เรากำลังทำ ให้กับวาด้ารับทราบ ซึ่งเรื่องนี้ ตัวเองจะเป็นคนประสาน และพูดคุยกับท่านประธานของวาด้าด้วยตนเอง

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่

บทความก่อนหน้านี้รพ.สนามมธ.เผย จับมือเอกชนประสานนำเข้าวัคซีน mRNA แล้ว 10 ล้านโดส

matichon

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( กกท.ชี้ลดเคอร์ฟิวช่วยกีฬาไทยขยับตัวมากขึ้น ปรับกลยุทธ์รับแผนเปิดประเทศ - มติชน )
https://ift.tt/3BIJye5
กีฬา

Bagikan Berita Ini