Search

โลกป่วย 11 ล้าน "โควิด-19" ลาม ยอดตายทะยานกว่า 5 แสน ไทยติดอีก 5 จากต่างประเทศ - ไทยรัฐ

planetyugie.blogspot.com

นพ.โสภณกล่าวอีกว่า รัฐบาลได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 5 เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2563 ที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มธุรกิจสถานบันเทิงและสถานประกอบการเปิดให้บริการ ซึ่งถือเป็นกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงอาจเกิดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ได้ กระทรวงสาธารณสุขยังคงขอความร่วมมือเจ้าของกิจการไม่หย่อนมาตรการป้องกันการแพร่ กระจายเชื้อโควิด-19 ดำเนินกิจการด้วยฐานวิถีชีวิตใหม่ (New normal) โดยเข้มการจัดพื้นที่แบบเว้นระยะห่าง จัดจุดคัดกรองอายุ/อุณหภูมิ จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ ทำความสะอาดพื้นผิวที่มีผู้สัมผัสร่วมบ่อยๆ และพนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าตลอดเวลา ด้านผู้ใช้บริการขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และลงทะเบียนเข้า-ออกผ่านแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่เข้าใช้บริการ เพื่อสะดวกต่อการสอบสวนโรคและติดตามผู้สัมผัสเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวังกักกันโรคได้อย่างรวดเร็ว

ป่วยพบหมอห้ามปกปิดข้อมูล

ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรคย้ำด้วยว่า ภายหลังการให้บริการและเข้ารับบริการ ขอให้พนักงานและผู้เข้ารับบริการ หมั่นสังเกตอาการตนเอง หากพบว่ามีอาการป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการไข้ ไอ เจ็บคอ ให้หยุดงานและรีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติความเสี่ยง เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว

อัด ศบค.ไม่กักตัวบิ๊กมะกัน

วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณี ผบ.ทบ. สหรัฐอเมริกา มีแผนเดินทางมาเยือน ผบ.ทบ.ไทยระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค. เพื่อหารือความร่วมมือทางทหาร โดยไม่ต้องมีการกักตัวเพื่อรอดูอาการเชื้อโควิด-19 จำนวน 14 วัน ตามมาตรการทางสาธารณสุขว่า รัฐบาลไทยยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินและข้อกำหนดการกักตัวผู้เดินทางมาจากต่างประเทศต้องถูกกักตัว 14 วัน แต่การที่ ศบค.มีคำสั่งอนุญาตให้นักธุรกิจต่างชาติและแขกต่างประเทศของหน่วยราชการที่มาไม่เกิน 14 วันไม่ต้องกักตัว แต่ให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดตามกำหนดการ และปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐกำหนด เป็นการเลี่ยงบาลีเอื้อประโยชน์ให้ ผบ.ทบ.สหรัฐอเมริกาเป็นการเฉพาะหรือไม่ ขอถาม ศบค.ดังๆว่านักธุรกิจต่างชาติ แขกต่างประเทศของหน่วยราชการเหล่านี้เป็นอภิสิทธิ์ชนที่เชื้อโควิด-19 ไม่กล้าแฝงเชื้ออยู่ในตัวหรือ

ซัดเลือกปฏิบัติใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า หากเรื่องดังกล่าวถูกปล่อยผ่าน ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลและ ศบค.จงใจใช้อำนาจภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างเลือกปฏิบัติ เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเหตุใดประชาชนและกลุ่มการเมืองออกมาเคลื่อนไหวให้ยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน แม้สถานการณ์การระบาดเชื้อโควิด-19 ในไทยจะทุเลาแล้ว แต่ ศบค.ยังยกแม่น้ำทั้งห้ามากล่าวอ้างความจำเป็นที่ยังต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ เนื่องจากอาจมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่มากมาย โดยเฉพาะใช้เป็นเครื่องมือจัดการฝ่ายตรงข้าม การที่ ศบค.อนุญาตให้นักธุรกิจต่างชาติและแขกต่างประเทศของหน่วยราชการที่มาไม่เกิน 14 วัน ไม่ต้องกักตัวเป็นคำตอบที่ทำให้คนไทยตาสว่างมากขึ้น ยกเว้นรัฐบาลจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินก่อนที่ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ จะมาไทย

ผบ.ทบ.มะกันมาตามข้อตกลงพิเศษ

ด้าน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กล่าวถึงกรณี พล.อ.เจมส์ แมคคอนวิลล์ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะ จะเดินทางมาเยือนไทยระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค.นี้ ในฐานะแขกของกองทัพบกว่า ขอให้ประชาชนคลายความกังวล ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษหรือ Special Arrangement ในฐานะแขกทางการ ที่เข้าเงื่อนไขไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการ 6 ข้อของ ศบค.อย่างเคร่งครัด ทุกคนยินดีและพร้อมปฏิบัติตาม คณะของ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ จะเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวมาจากประเทศสิงคโปร์ ไม่ได้เดินทางตรงมาจากสหรัฐฯ เป็นคณะเล็กที่มีผู้ร่วมเดินทางไม่เกิน 10 คน ใช้เวลาอยู่ในไทยเพียง 2 วันคือเดินทางมาถึงวันที่ 9 และกลับในวันที่ 10 ก.ค. จะตรวจเชื้อจากประเทศต้นทางและตรวจซ้ำเมื่อถึงไทย มีเจ้าหน้าที่ของไทยติดตามใกล้ชิดและเดินทางตามเส้นทางที่กำหนดไว้เท่านั้น

“บิ๊กแดง” ยันทำตามมาตรการทุกข้อ

ขณะที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.เปิดเผยถึงกรณี ผบ.ทบ.สหรัฐฯ จะเดินทางมาเยือนไทยโดยไม่ต้องตรวจเชื้อโควิด-19 และไม่ต้องกักตัว 14 วัน ว่า ผบ.ทบ.สหรัฐฯ ต้องทำตามมาตรการและปฏิบัติตามระเบียบของทางการไทยทุกอย่างด้วยความเต็มใจ รวมถึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้ 1.การมีใบรับรองแพทย์ Fit to fly 2.มีใบรับรองแพทย์ว่าปลอดโควิด-19 ภายใน 72 ชม.ก่อนการเดินทาง 3.มีกำหนดการเดินทางชัดเจน 4.มีคณะเดินทาง 6 คน 5.มีการตรวจโควิด-19 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 6.มีชุดติดตามด้านการแพทย์และสาธารณสุข และ 7.งดไปที่สาธารณะโดยจะเดินทางไปเฉพาะสถานที่ในกำหนดการเท่านั้น ขั้นตอนการกำหนดการเดินทางทั้งหมดผ่านการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว จึงกำหนดวันเดินทาง ที่ผ่านมา ศบค.มีคำสั่งอนุญาตให้นักธุรกิจต่างชาติและแขกต่างประเทศของหน่วยราชการที่มาไม่เกิน 14 วัน ไม่ต้องกักตัว แต่ให้อยู่ในพื้นที่ตามกำหนดการ และปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐกำหนด

ผบ.ทบ.นำเข้าพบหารือนายกฯตู่

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกำหนดการมาเยือนของคณะ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ มีประมาณ 10 คน ใช้อากาศ-ยานของสหรัฐฯ จะเดินทางมาถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง วันที่ 9 ก.ค. และเดินทางกลับในวันที่ 10 ก.ค. การเลือกใช้ท่าอากาศยานของทหาร เพื่อลดความพลุกพล่านและลดการสัมผัสร่วมกับประชาชน จากนั้นจะมีการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ บน.6 โดยมีกำหนดการเดินทางชัดเจน ไม่มีการออกนอกเส้นทาง รวมถึงทุกคนผ่านการกักตัวจากสหรัฐฯ มาแล้ว 14 วัน จากนั้นจะเดินทางไปสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศ ไทย เพื่อพบปะกำลังพลกองทัพบกสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก่อนเดินทางไปเยี่ยมชม สวพท.เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวข้องกับมาตรการและการวิจัย การพัฒนาวัคซีน และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จากนั้น วันที่ 10 ก.ค.จะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.จะนำ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ เข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก–รัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จากนั้นเดินทางไปยังกองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน เพื่อร่วมพิธีต้อนรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการ และเดินทางออกจากประเทศไทย โดยอากาศยานของกองทัพสหรัฐฯ ที่ บน.6 เช่นเดิม

ตากเตรียมเปิดจุดผ่อนปรน

สำหรับบรรยากาศหลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนเฟส 5 มาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.ค. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผวจ.ตาก เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดตาก เพื่อร่วมพิจารณาในการเปิดจุดการค้าท่าข้ามธรรมชาติ หรือจุดผ่อนปรนชั่วคราวตามท่าเรือต่างๆ โดยที่ประชุมมีมติให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนชายแดน จ.ตาก ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.นี้ กำหนดเงื่อนไขและหลักปฏิบัติการเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าชายแดนในการส่งออก-นำเข้าสินค้าตามท่าเรือ ท่าข้าม ริมแม่น้ำเมย ชายแดน อ.แม่สอด 21 แห่ง อ.ท่าสองยาง 6 แห่ง อ.แม่ระมาด 3 แห่ง อ.พบพระ 3 แห่ง โดยใน 1 สัปดาห์จะเปิด 5 วัน ระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-18.00 น.และอนุญาตให้เฉพาะขนส่งสินค้าข้ามแดนเท่านั้น ส่วนประชาชนยังคงไม่อนุญาตให้ข้ามจุดผ่อนปรน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

แพร่เปิดตลาดนัดของเก่า

ที่ตลาดนัดของเก่าบ้านโป่งศรี ลานบ้านหนานแก้วอนุรักษ์ไทย หมู่ 6 บ้านโป่งศรี ต.บ้านถิ่น อ.เมืองแพร่ นายอินทรีย์ กันตะนา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านโป่งศรี เป็นประธานเปิดตลาดนัดของเก่าบ้านโป่งศรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า และประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก นายอินทรีย์เปิดเผยว่า ตลาดนัดของเก่าบ้านโป่งศรี ถูกปิดนานกว่า 4 เดือน ในช่วงการแพร่ ระบาดไวรัสโควิด-19 ขณะนี้รัฐบาลออกมาตรการผ่อนปรนให้มีการเปิดตลาดได้ บรรดาพ่อค้าและชาวบ้านต่างนำของเก่าจากทุกสารทิศมาแลกเปลี่ยนซื้อขายกันจนเกิดรายได้ ส่งผลให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ท่ามกลางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด เช่น ตั้งจุดคัดกรอง เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ขอเชิญชวนประชาชนเยี่ยมชม และซื้อของเก่ากันได้ที่ลานบ้านหนานแก้วอนุรักษ์ไทย

พังงาพร้อมรับนักท่องเที่ยว

ขณะที่นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.พังงา พร้อมด้วยนายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา นำสื่อมวลชนล่องเรือชมความงดงามของ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา หลังเริ่มเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมความงามทางธรรมชาติทางทะเล รวมถึงให้กำลังใจผู้ประกอบการบนเกาะปันหยี และเขาพิงกัน นายจำเริญกล่าวว่า จากสถาน-การณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆนานกว่า 3 เดือน ขณะนี้ธรรมชาติกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ปัจจุบันสถาน-การณ์การแพร่ระบาดเริ่มผ่อนคลายลง ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก และร้านอาหารต่างๆ จัดแคมเปญลดราคาห้องพักกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ภายใต้รูปแบบ New Normal เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ให้กำลังใจ ตร.บุรีรัมย์

ที่หอประชุมชัยจินดา ภ.จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานมอบเครื่อง อุปโภคบริโภคแก่ข้าราชการตำรวจ ภ.จ.บุรีรัมย์ จำนวน 70 ชุด ตามนโยบายและการมอบหมายของ ผบ.ตร., รอง ผบ.ตร. (ปป) และรอง ผบ.ตร. (บร) ในโครงการขอบคุณตำรวจที่ทำหน้าที่ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ รอง ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์, ข้าราชการตำรวจ ภ.จ.บุรีรัมย์ และแม่บ้านตำรวจ ภ.จ.บุรีรัมย์ ให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาทและสิ่งของแก่ พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์ เพื่อสนับสนุนสวัสดิการ ข้าราชการตำรวจ ภ.จ.บุรีรัมย์ หลังจากนั้นได้ไปตรวจเยี่ยม สภ.เมืองบุรีรัมย์ โดยมี พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ รอง ผกก.ป. รรท.ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมข้า ราชการตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ รอรับการตรวจเยี่ยม ซึ่งผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวขอบคุณ ให้กำลังใจ และได้เน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติตามนโยบายของ ผบ.ตร.ในเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การยกระดับการให้บริการประชาชนของสถานีตำรวจ พร้อมทั้งกำชับการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

คนไทยกลับมาอีกกว่า 400 คน

ส่วนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังคงมีคนไทยและนักธุรกิจชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จำนวน 4 เที่ยวบิน ได้แก่ เวลา 13.17 น. สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก เที่ยวบินที่ CX653 นำคนไทยในสหรัฐอเมริกา จำนวน 53 คน เดินทางมาถึง ต่อด้วยเวลา 13.37 น. สายการบินลุฟต์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH772 นำกลุ่มคนไทยในฝรั่งเศส อังกฤษ สวีเดน เยอรมนี อิตาลี เดนมาร์ก มอลตา ออสเตรีย กรีซ ฟินแลนด์ เอสโตเนีย สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม โปแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ จำนวน 237 คน และนักธุรกิจในกลุ่มประเทศยุโรปสัญชาติเยอรมัน อิตาลี สเปน อิสราเอล เนเธอร์แลนด์ และโรมาเนีย จำนวน 13 คน รวม 250 คน มาถึงประเทศไทย เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคตรวจพบผู้เดินทางเข้าประเทศมีไข้ 3 คน จากนั้นเวลา 16.03 น. สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ PG9902 นำคนไทยในเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม จำนวน 5 คน เดินทางถึงไทย และเวลา 21.45 น. สายการบินโคเรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ KE651 นำคนไทยในเกาหลีใต้ จำนวน 150 คน เดินทางมาถึง โดยกลุ่มที่ตรวจพบมีไข้ เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.ทันที ส่วนที่เหลือนำเข้าสู่สถานกักตัวที่รัฐกำหนด ที่กระจายอยู่ใน กทม. สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และชลบุรี

คนเริ่มเที่ยววัดในกรุงแต่น้อยลง

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวออกสำรวจวัดวาอารามที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมใน กทม.โดยที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร พบว่ากลับมามีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้ามาเดินชมความงดงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ บ้างแล้ว โดยทางวัดมีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดตั้งแต่ทุกคนต้องผ่านการวัดอุณหภูมิ และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เข้าชม ทั้งนี้จากการเปิดเผยของนายเมที ปรีทุ่ง นักศึกษาคณะวนศาสตร์ ม.เกษตรฯ ปี 4 ที่มาเดินถ่ายภาพในวัดพร้อมเพื่อน บอกว่าเป็นความรู้สึกที่เหงา เศร้า หมดกำลังใจ เมื่อเราอยู่บ้านนานๆ ท่ามกลางวิกฤติโรคระบาด จึงชวนเพื่อนออกมาหาความสุขที่อยู่ภายในสถานที่ต่างๆ และพกกล้องถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นความทรงจำถึงความรู้สึกในช่วงเวลาที่เราทุกคนลำบาก ต้องต่อสู้กับโรคระบาดที่คร่าชีวิตคนไปเป็นจำนวนมาก บรรยากาศในวัดดูแปลกตาไปจากที่เคยเห็น คนมาวัดไม่เยอะมาก นักท่องเที่ยวน้อยลง แต่ก็ให้ความรู้สึกสงบ ไม่แออัด เป็นโอกาสดีที่ได้เห็นมุมมองสวยๆภายในวัด ไวรัสโคโรนาทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต แมสก์และแอลกอฮอล์เจล กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว และการดูแลตัวเองที่ระมัดระวังมากขึ้น มาพร้อมกับการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆมากมาย ตนเชื่อว่าสุขภาพที่แข็งแรง ไวรัสไม่สามารถทำอะไรเราได้

โอนเงินเยียวยารวดเดียว 4 ก.ค.

สำหรับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังเหลือเป็นบางกลุ่มนั้น ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า กระทรวงการคลังยังคงเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จ่ายเงินเยียวยาผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน จำนวน 1.14 ล้านคน เดือนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พ.ค.-ก.ค.) รวมเป็นเงิน 3,000 บาทต่อคน โดยเงินจะเข้าบัญชีครั้งเดียวในวันที่ 4 ก.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จะต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ของสำนักงานประกันสังคม และต้องไม่เคยได้รับความช่วยเหลือเยียวยาจากโครงการใดๆของรัฐ นอกจากนี้ในส่วนการรับเรื่องราวร้องทุกข์ที่กระทรวงการคลังและทั่วประเทศนั้น มีมากกว่า 2 ล้านฉบับ สศค.ตรวจสอบคัดกรองใกล้จะเสร็จทั้งหมดแล้ว และจะหามาตรการช่วยเหลือต่อไป

3 ชาติติดเชื้อโควิด–19 อ่วม

ส่วนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน 213 ประเทศหรือดินแดนทั่วโลก เมื่อวันที่ 4 ก.ค. สื่อต่างประเทศรายงานยอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 11.21 ล้านคน ผู้เสียชีวิตทั่วโลก 5.29 แสนคน รักษาหายดีทั่วโลกรวม 6.36 ล้านคน การระบาดรุนแรงยังอยู่ที่ 3 ประเทศเดิม เริ่มจากสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อรวม 2.89 ล้านคน ผู้เสียชีวิตรวม 1.32 แสนคน ตามด้วยบราซิล มีผู้ติดเชื้อรวม 1.54 ล้านคน ผู้เสียชีวิตรวม 6.32 หมื่นคน และรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อรวม 6.74 แสนคน ผู้เสียชีวิตรวม 10,027 คน

แฟนลูกทรัมป์ติดไวรัส

นอกจากนี้ มีรายงานว่า คิมเบอร์ลี กิลฟอยล์ แฟนสาววัย 51 ปีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ถูกตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ไม่แสดงอาการ และได้กักตัวเองทันที ส่วนนายทรัมป์ จูเนียร์ แม้ตรวจไม่พบเชื้อ แต่ได้กักตัวเองและยกเลิกออกงานสาธารณะทั้งหมด ทั้งนี้ กิลฟอยล์เดินทางไปดูผู้นำสหรัฐฯ จัดการปราศรัยและการจุดพลุเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ ที่หุบเขารัชมอร์ รัฐเซาท์ ดาโกตาด้วย นับเป็นผู้ใกล้ชิดผู้นำสหรัฐฯคนที่ 3 ที่ถูกตรวจพบติดเชื้อไวรัสมรณะต่อจากผู้รับใช้ส่วนตัวของนายทรัมป์ และโฆษกของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์

ผู้ดีเปิดผับได้ยกเว้นเลสเตอร์

ส่วนที่อังกฤษ ที่มีผู้ติดเชื้อรวม 284,276 คน ผู้เสียชีวิตรวม 44,131 คน เริ่มให้ผับ ร้านอาหารและร้านตัดผม เปิดกิจการได้เมื่อวันที่ 4 ก.ค. นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน แต่ไม่ใช่ที่เมืองเลสเตอร์ ที่ยังอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ไม่ได้ห้ามคนในครอบครัวพบปะและพักค้างคืน แต่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ส่วนที่ไอร์แลนด์เหนือ ผับและร้านอาหารเปิดตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. สกอตแลนด์ ลานเบียร์และร้านอาหารแบบกลางแจ้งเปิดได้ในวันที่ 6 ก.ค. ส่วนพื้นที่อื่นๆอนุญาตเปิดได้ในวันที่ 15 ก.ค.เป็นต้นไป

เปิดโผ 59 ชาติเข้าอังกฤษได้

อังกฤษยังเผยแพร่รายชื่อ 59 ประเทศบวกอีก 14 ดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงจากไวรัสโควิด-19 ลดลง สามารถเดินทางเข้าอังกฤษได้โดยไม่ต้องกักกันโรค 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.นี้เป็นต้นไป กลุ่มประเทศในบัญชีดังกล่าวส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป รวมทั้งฝรั่งเศส ออสเตรีย และตุรกี โดยยังมีกลุ่มประเทศในโลกตะวันออกรวมอยู่ด้วย เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน เวียดนาม เกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แต่ไม่รวมสวีเดน โปรตุเกส รัสเซีย สหรัฐฯ แคนาดาและอื่นๆ

สเปนกลับมาล็อกดาวน์อีก

ที่สเปน มีผู้ติดเชื้อรวม 297,625 คน ผู้เสียชีวิตรวม 28,385 คน ทำให้ทางการสั่งล็อกดาวน์เมืองทางตะวันตกของบาร์เซโลนา เมืองเอกแคว้นคาตาลัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกครั้งและมีผู้ได้รับผลกระทบราว 200,000 คน โดยเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจเข้มห้ามเข้าออกเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตและห้ามอยู่รวมกันเกิน 10 คน หลังยอดผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นกลับมาเพิ่มขึ้น นับเป็นการใช้คำสั่งล็อกดาวน์ครั้งแรกนับตั้งแต่สเปนยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศไปเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ออสซีปิดชุมชนสู้ไวรัส

ส่วนที่รัฐวิคตอเรีย ในประเทศออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่สั่งล็อกดาวน์อาคารที่พักอาศัยสาธารณะ หรือแฟลต 9 แห่งในเขตเฟลมิงตันและนอร์ท เมลเบิร์น แถบชานเมืองเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐ ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบราว 3,000 คน ที่ถูกห้ามออกนอกบ้านโดยสิ้นเชิง นานอย่างน้อย 5 วัน โดยทางการจะจัดส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นให้ ถือเป็นการล็อกดาวน์พื้นที่อย่างเข้มงวด หลังรัฐวิคตอเรียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 108 คน มากทุบสถิติใหม่หลังมีผู้ติดเชื้อเป็นเลข 2 หลักต่อเนื่องมาหลายวัน

เมืองหลวงญี่ปุ่นน่าห่วง

ด้านประเทศญี่ปุ่น นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น วอนผู้คนไม่ให้เดินทางออกนอกพื้นที่ในช่วงนี้ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 131 คน นับเป็นการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินกว่า 100 คน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังเพิ่มการตรวจหาไวรัสในกลุ่มพนักงานสถานบันเทิงกลางคืน ย่านชินจูกุและอิเคบุคุโระ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 19,068 คน ผู้เสียชีวิตรวม 976 คน ขณะที่เกาหลีใต้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 63 คน ยอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 13,030 คน ผู้เสียชีวิตรวม 283 คน ส่วนที่จีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 คน รวมกรุงปักกิ่ง 1 คน ยอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 83,545 คน ผู้เสียชีวิตรวม 4,634 คน

จีนยัน “จี 4” ไม่ใช่ไวรัสพันธุ์ใหม่

นอกจากนี้ กรณีวารสารวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯ “PNAS” เผยแพร่ผลศึกษาวิจัยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ว่า ทีมนักวิจัยในจีนค้นพบเชื้อไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ที่อาจกลายพันธุ์จนแพร่ระบาดจากคนสู่คนเป็นวงกว้างได้ โดยเป็นเชื้อไข้หวัดหมูชื่อว่า “จี 4” (G4) เชื่อมโยงทางพันธุกรรมกับไข้หวัดหมู สายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) เปลี่ยนชื่อเป็น “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1” ที่เคยระบาดช่วงปี 2552 นั้น กระทรวงเกษตรและกิจการชนบทของจีนแถลงว่า ไวรัส “จี 4” ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ อีกทั้งไม่ได้แพร่ระบาดหรือทำให้ติดเชื้อได้ง่ายไม่ว่าคนหรือสัตว์ ส่วนที่ปรากฏข้างต้นเป็นการแปลหรือตีความของสื่อที่ขยายความเกินจริงและไร้มูลความจริง องค์การอนามัยโลก (WHO) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจีน ศึกษาตรวจสอบไวรัส “จี 4” มาตั้งแต่ปี 2554




July 05, 2020 at 05:30AM
https://ift.tt/2BGSZRF

โลกป่วย 11 ล้าน "โควิด-19" ลาม ยอดตายทะยานกว่า 5 แสน ไทยติดอีก 5 จากต่างประเทศ - ไทยรัฐ

https://ift.tt/3cN12d5


Bagikan Berita Ini

0 Response to "โลกป่วย 11 ล้าน "โควิด-19" ลาม ยอดตายทะยานกว่า 5 แสน ไทยติดอีก 5 จากต่างประเทศ - ไทยรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.