หากพูดถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันนั้น หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มพัฒนาไปในรูปแบบ ‘ไร้สาย’ มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาพอร์ตการเชื่อมต่อระหว่างสายชาร์จก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น USB Type-A, USB Type-B, USB Type-B mini และ USB Type-B micro และมาตรฐานล่าสุดก็คือ USB Type-C ซึ่ง EU กำลังจะกำหนดให้เป็นพอร์ตมาตรฐานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
คณะกรรมการตลาดภายในและการคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐสภายุโรป ได้ลงมติเห็นชอบในคะแนน 43 ต่อ 2 เพื่อให้ใช้ พอร์ต USB-C เป็นพอร์ตมาตรฐานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยกเว้นอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กเกินไปที่จะมีพอร์ต USB Type-C เช่น สมาร์ทวอทช์ เครื่องติดตามสุขภาพ และอุปกรณ์กีฬาบางชนิด
โดยคณะกรรมการให้เหตุผลว่า กฎใหม่นี้จะทำให้แน่ใจว่า ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องใช้ที่ชาร์จและสายเคเบิลใหม่ทุกครั้งที่ซื้ออุปกรณ์ใหม่ และ สามารถใช้ที่ชาร์จอันเดียวสำหรับแกดเจ็ตอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กและขนาดกลางทั้งหมดได้ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต กล้องดิจิตอล หูฟังและชุดหูฟัง คอนโซลวิดีโอเกมแบบใช้มือถือ และลำโพงแบบพกพา ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค
ทั้งนี้ การแก้ไขนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในวงกว้างของสหภาพยุโรปในการแก้ไขปัญหาความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในตลาดสหภาพยุโรป และเพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง MEPs เผยว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป มีมากถึง 11,000-13,000 ตันต่อปี ส่วนใหญ่มาจากอุปกรณ์การชาร์จของสมาร์ทโฟนที่ต้องเปลี่ยนใหม่เมื่อซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องใหม่หรือต่างแบรนด์กัน
อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวจะยังไม่ถูกบังคับใช้ โดยในขั้นตอนถัดไป ร่างดังกล่าวจะถูกเสนอผ่านสภารวมในเดือนพฤษภาคม และเริ่มออกขั้นตอนบังคับใช้กับประเทศสมาชิกยุโรปต่อไป ซึ่งแปลว่าสินค้าของ Apple ที่จะขายในยุโรปหลังข้อกำหนดนี้บังคับใช้ จะต้องเปลี่ยนไปใช้ USB-C ทั้งหมด จากที่ปัจจุบัน iPhone, iPad รุ่นเริ่มต้น และ AirPods ยังใช้พอร์ต Lightning สำหรับเชื่อมต่ออยู่
Related
https://ift.tt/fs41Pet
แกดเจ็ต
Bagikan Berita Ini
0 Response to "'EU' ผ่านร่างกฎหมายบังคับใช้พอร์ต 'USB-C' ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด เพื่อลดภาระผู้บริโภค - Positioning Magazine"
Post a Comment