โลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลกำลังพลิกนิเวศธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วต่างไปจากเดิม โดยที่ “ธุรกิจค้าปลีก” ไม่จำเป็นต้องวางกรอบตัวเองอยู่ในอุตสาหกรรมเดิมอีกต่อไป แต่สามารถสร้างธุรกิจในรูปแบบใหม่ หรือ New S-Curves Business เป็นที่มาของโปรเจค “ONESIAMSuperApp” แพลตฟอร์มอัจฉริยะของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ภายใต้กลยุทธ์ “Co-creation” ที่ผสานความร่วมมือพันธมิตรกว่า 50 องค์กรชั้นนำมากกว่า 1,000 แบรนด์ ครอบคลุม 13 อุตสาหกรรมหลักของประเทศ
เป็นการเชื่อมต่อพันธมิตร ผสานฐานลูกค้าให้มีการบริหารจัดการที่จะส่งประโยชน์สูงสุด พร้อมมอบหลากหลายประสบการณ์บนแพลตฟอร์มเดียวสร้างระบบนิเวศแห่งความสำเร็จ หรือ “New Economy” แห่งอนาคต ได้ฤกษ์ดีวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ในการเปิดตัว "ONESIAM SuperApp : The Universe of Extraordinary Experiences” พร้อมเครือข่ายพันธมิตรอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีบรรดาซีอีโอทุกวงการธุรกิจร่วมงาน
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ผู้พัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพกล่าวว่า สยามพิวรรธน์ในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์ (Thought Leader)มุ่งก้าวข้ามขีดจำกัด และข้อจำกัดทุกรูปแบบ เพื่อนำพาพันธมิตร คู่ค้า และลูกค้า ไปสู่โลกใหม่แห่งอนาคต โดยช่วง 13 เดือนที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมกับองค์กรนวัตกรรมทั่วโลกพัฒนา วันแพลตฟอร์ม "ONESIAMSuperApp” ซูเปอร์แอพพลิเคชันใหม่ ที่รวม 4 จักรวาลแห่งประสบการณ์เหนือความคาดหมาย “The Universe of Extraordinary Experiences” ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
นับเป็นการต่อยอดเชิงยุทธศาสตร์ไปตามสถานการณ์และตัวแปรใหม่ที่มีบทบาทมากขึ้นจาก 10 ปีก่อน สยามพิวรรธน์ ได้พลิกกลยุทธ์การทำธุรกิจ โดยเป็นรายแรกที่ประกาศว่า “ศูนย์การค้าของเราไม่ได้เป็นเพียงที่ขายสินค้าหรือให้บริการ แต่เป็นสถานที่ที่จะนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่และยิ่งใหญ่ในทุกมิติ สร้างแรงบันดาลใจและมอบคุณค่าของการใช้ชีวิตแก่ผู้คนอย่างไม่สิ้นสุด”
ในครั้งนี้ สยามพิวรรธน์ได้เดินหน้ากลยุทธ์ Co-creation ผนึกองค์กรนวัตกรรม พันธมิตร คู่ค้า และแบรนด์ที่แข็งแกร่งจากทั่วโลก สร้างระบบนิเวศธุรกิจพรีเมียมระดับโลก ผสานฐานลูกค้าที่ทรงพลังทั้งในและต่างประเทศ เดินหน้าสู่โลกใหม่ของธุรกิจที่สามารถขยายไปได้อย่างไร้พรมแดน ปูทางต่อยอดเชื่อมโยงคู่ค้าพันธมิตรจากทั่วโลก หรือ Global Ecosystem ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม
ทุ่ม300ล้านปั้นเศรษฐกิจดิจิทัล
ทั้งนี้ สยามพิวรรธน์ ลงทุนกว่า 300 ล้านบาท สร้างระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และแอพพลิเคชันรูปแบบใหม่ดังกล่าวเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของพันธมิตรในระบบนิเวศ พร้อมส่งเสริมธุรกิจของร้านค้าใน 4 ศูนย์การค้า รวมถึงพันธมิตรกว่า 1,000 แบรนด์ ทั้งในและต่างประเทศ
“นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของการรวมพลังที่แข็งแกร่งบนแพลตฟอร์มที่จะเชื่อมโยงกว่า 13 อุตสาหกรรม ให้ใกล้ชิดผู้บริโภค ให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและเป็นเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง” นางชฎาทิพ กล่าวและว่า
สำหรับ 4 กุญแจสำคัญพัฒนาวันแพลตฟอร์มครั้งนี้ ประกอบด้วย
1.Sharing Economy ทุกฝ่ายในห่วงโซ่ธุรกิจจะได้รับประโยชน์ทั่วถึง ซึ่งลูกค้าสมาชิกONESIAM SuperApp ทุกการจับจ่ายใช้สอยจะเกิดความคุ้มค่าผ่านการปฏิวัติระบบ Loyalty Program ให้เป็นระบบเพิ่มมูลค่า โดยลูกค้าจะได้รับคืนเป็น VIZ COIN โดยสยามพิวรรธน์ มีแผนขยายบริการครอบคลุม “สินทรัพย์ดิจิทัล” ในไตรมาสแรกของปีหน้า พร้อมเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนและใช้คะแนนสะสมจากพันธมิตรธุรกิจ เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนและการใช้ VIZ COIN
2.Co-creation ร่วมกับพันธมิตรคู่ค้า และแบรนด์ที่แข็งแกร่งจากทั่วโลกสร้างมหกรรมคอนเทนท์จากฝีมือ Content Makers ระดับโลก สร้างสรรค์แคมเปญการตลาด กิจกรรมส่งเสริมการขาย Loyalty Program
3.Collaborate to Win เชื่อมต่อแพลตฟอร์มจากหลากหลายประเภทธุรกิจของพันธมิตรในระบบนิเวศ อาทิ ฟินเทคแพลตฟอร์ม, เอส-คอมเมิร์ซ, NFT, Cryptocurrency/Benefits และ Metaverse
4.Sustainable Growth for All เติบโตไปด้วยกันบนแพลตฟอร์ม ONESIAM SuperApp เป็นการเปิดโลกใหม่ของการทำธุรกิจดิจิทัลที่ทลายทุกข้อจำกัด ส่งผลให้เกิดการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว และขยายฐานลูกค้าซึ่งกันและกันระหว่างพันธมิตร ร่วมกันพัฒนาธุรกิจดิจิทัลใหม่ ๆ และขยายฐานลูกค้าสู่ “Global Citizen”
ส่อง4จักรวาลเหนือคาดหมาย
นายปานเทพย์ นิลสินธพ ประธานบริหารสายงานประสบการณ์ลูกค้า กล่าวเสริมว่า ธุรกิจค้าปลีกไม่ใช่เพียงเรื่องการจับจ่ายใช้สอย แต่ต้องสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด โดย 4 จักรวาลแห่งประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายของ ONESIAM SuperApp ประกอบด้วย จักรวาลแห่งการจับจ่ายใช้สอย จากการผนึกแบรนด์ระดับพรีเมียมและลักชัวรีกว่า 1,000 แบรนด์เข้ามาในรูปแบบการขายสินค้า การทำคอนเทนท์ การทำลอยัลตี้โปรแกรม พร้อมพัฒนาฟีเจอร์ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มลักชัวรีโดยเฉพาะ การเปิดหน้าพิเศษสำหรับ “ลักชัวรีแบรนด์” ทั้งในส่วนคอนเทนท์ สินค้า และบริการ
จักรวาลแห่งการเชื่อมโยงคอมมูนิตี้ ร่วมกับผู้นำความคิด คนรุ่นใหม่ สร้างคอมมูนิตี้ออนไลน์แพลตฟอร์มนำเสนอคอนเทนท์ที่หลากหลายตามความสนใจของลูกค้าเพื่อเชื่อมโยงและสร้างการมีส่วนร่วม มอบแรงบันดาลใจในชีวิตประจำวัน เทรนด์ล้ำโลก มีกว่า 3,000 คอนเทนท์ในแต่ละเดือน จาก 5 คอมมูนิตี้หลัก Style แฟชั่น เครื่องประดับ Glow สุขภาพ ความงาม เครื่องบำรุงผิว Feast หรือ การเฉลิมฉลอง อาหาร เครื่องดื่ม การสังสรรค์ Travel ท่องเที่ยว ศิลปะ วัฒนธรรม ดีไซน์ และ Fun กิจกรรมยามว่าง กีฬา เกมส์ แกดเจ็ต
จักรวาลแห่งระบบรีวอร์ดที่ไร้ขีดจำกัด ได้ผนึกร้านค้า พันธมิตรปฏิวัติระบบลอยัลตี้โปรแกรมแบบใหม่ ใช้ “VIZ COIN” ที่ 1 เหรียญ มีมูลค่า 1 บาท เลือกซื้อสินค้าในร้านค้าที่เข้าร่วมรายการในศูนย์การค้าและออนไลน์ ร่วมกับพันธมิตรเพื่อให้ลูกค้าเปลี่ยนคะแนนสะสมในบัตรเครดิตธนาคาร หรือบัตรสมาชิกต่างๆ เป็น VIZ COIN เพื่อใช้ซื้อสินค้าได้คุ้มค่าและสะดวก
ปีหน้าลุยสินทรัพย์ดิจิทัล-เมทาเวิร์ส
จักรวาลแห่งประสบการณ์ที่ไม่สิ้นสุด โดยต้นปีหน้าสมาชิกใช้ ONESIAM SuperApp ทำธุรกรรมดิจิทัลเกี่ยวกับ“สินทรัพย์ดิจิทัล” และดิจิทัลยูทิลิตี้ ในช่วงแรกนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นมากกว่ารีเทลระดับโลกในรูปแบบ “งานศิลปะดิจิทัล NFT” ร่วมมือกับ KASIKORN X หรือ KX เป็นพันธมิตรแรก ก่อตั้ง Coral-Super Simple NFT Marketplace (CORALWORLD.CO) เพื่อสนับสนุน ผลักดัน ต่อยอด งานศิลปะ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ของศิลปินไทยและภูมิภาคในไทยและไปสู่ระดับโลก และการร่วมมือกับ Zipmex ในการแลกซื้อคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟผ่าน Zipmex Token (ZMT)
ปีหน้าจะร่วมกับ เอ็กซ์สปริง (X Spring) และ เจ เวนเจอร์ส สร้างประสบการณ์ใหม่ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร และเตรียมขยายศักยภาพการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริงบนเมทาเวิร์ส (Metaverse)
สยามพิวรรธน์ มีแผนจับมือบริษัทชั้นนำสำหรับการพัฒนาเชื่อมสู่แพลตฟอร์มโลกการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลต่อไปในอนาคต โดย ONESIAM SuperApp ตั้งเป้าดาวน์โหลด 5 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2565 จากฐานลูกค้ากลุ่มกำลังซื้อสูง 7 ล้านคน
เปิดพันธมิตร 13 อุตสาหกรรมหลัก
โดยพันธมิตรเบื้องต้น ประกอบด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
กลุ่มอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารยูโอบี ธนาคารออมสิน ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) และบริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
กลุ่มอุตสาหกรรมประกันภัย อาทิ กรุงเทพประกันชีวิต ทิพยประกันภัย ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์
กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น ทรู คอร์ปอเรชั่น โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส
กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ แสนสิริ
กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์ รักษ ศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวม
กลุ่มอุตสาหกรรมการบิน ได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส แอร์เอเชีย ซูเปอร์แอพ
กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย)
กลุ่มอุตสาหกรรมสื่อและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ เช่น กันตนา กรุ๊ป แพลน บี มีเดีย วีจีไอ
กลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ อาทิ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพ
กลุ่มอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล อาทิ เจ เวนเจอร์ส อีอาร์เอ็กซ์ เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล KASIKORN X ซิปส์แม็กซ์
กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ได้แก่ Transformational, Perx Technologies, Adobe, หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย), inCart โดยบริษัท มิวซ์ อินโนเวชั่น จำกัด
กลุ่มอุตสาหกรรมโฆษณาและผลิตคอนเทนท์ เช่น โอกิลวี่ ประเทศไทย ดี โปรดักชั่น เฮ้าส์ แอนด์เฟรนด์สตูดิโอ เป็นตุเป็นตะ Boutique Agency and Production House อีส ครีเอทีฟ แอนด์ โปรดัคชั่น เฮาส์ ทีม จินโตะ
https://ift.tt/3oSBaoF
แกดเจ็ต
Bagikan Berita Ini
0 Response to "สยามพิวรรธน์ปั้น"วันสยามซูเปอร์แอพ"ลุยเศรษฐกิจใหม่ - กรุงเทพธุรกิจ"
Post a Comment