ในโลกกีฬาการต่อสู้ ณ นาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ดิ ไอรอนแมน” รถถัง จิตรเมืองนนท์ ตัวแทนนักมวยไทยที่ได้ประกาศศักดาศิลปะการต่อสู้ประจำชาติสู่สายตาชาวโลกหลายต่อหลายครั้ง จนมีแฟนคลับจากทั่วโลกติดตามมากมาย ในขณะเดียวกัน “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ นั้นเป็นนักเตะขวัญใจแฟนบอลชาวไทยทั้งประเทศที่มีความสามารถเหลือล้นจนได้รับโอกาสไปค้าแข้งในต่างแดนและแสดงให้เห็นว่านักฟุตบอลไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก
ไม่น่าเชื่อว่า แม้ทั้งคู่จะสู้อยู่ในกีฬาต่างประเภทกัน แต่กลับมีความคิดและการใช้ชีวิตที่คล้ายกัน โดยทั้งคู่เผยว่ามีพื้นเพจากครอบครัวที่ฐานะยากจน ต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบ แต่ชีวิตทั้งคู่ก็มาถึงจุดพลิกผันเมื่อได้ค้นพบกับความหลงใหลในกีฬาที่ให้โอกาสในการพัฒนาตนเองและคุณภาพชีวิต
รถถัง: “สำหรับผม กีฬามวยให้ชีวิต ให้อะไรหลายอย่างกับผม ให้ทั้งงาน เงิน และทำให้ผมมีชีวิตที่ดีขึ้น สามารถดูแลครอบครัวได้ จากที่เคยเกเร ผมก็เปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น ทั้งมีระเบียบวินัย มีมารยาท ถ้าไม่ได้มาเป็นนักมวย ป่านนี้ผมอาจหลงเดินเส้นทางผิดเป็นคนขายยาไปแล้วก็ได้”
เจ: “ใช่ครับ กีฬาสอนให้เรามีวินัย รู้แพ้ รู้ชนะ รู้จักการให้เกียรติซึ่งกันและกัน แถมยังได้เพื่อนได้สังคมใหม่ๆ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดี ถ้าผมไม่ได้เป็นนักฟุตบอลในวันนี้ ผมก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน คงเกาะพ่อแม่กินไปวันๆ แต่โชคดีที่เรารู้ว่ามีความสามารถด้านนี้และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ ก็ถือว่าคุ้มค่า”
เมื่อถูกถามถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่สามารถยกระดับตนเองให้เป็นที่ยอมรับบนเวทีระดับโลกได้ ทั้ง รถถัง และ เจ ก็พร้อมใจตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ความมีวินัยในตนเองและความเพียรพยายาม” ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่นักกีฬาทุกคนต้องมี จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทั้งสองคนจึงถูกยกให้เป็นนักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์ของวงการที่ครองใจแฟนๆ จากทั่วโลกได้มากมายขนาดนี้
นี่เป็นเพียงส่วนน้อยมากของการสนทนาออนไลน์ของทั้งคู่ บรรยากาศสนุกสนานและสาระชีวิตจากสองนักกีฬาผู้ประสบความสำเร็จฉบับเต็ม แฟนๆ สามารถคลิกชมได้ทาง ยูทูบ ONE Championship และเฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand.
https://ift.tt/3dgabNz
กีฬา
Bagikan Berita Ini
0 Response to "รถถัง x ชนาธิป : ถ้าไม่ใช่เพราะกีฬา ชีวิตคงไม่มีวันนี้ - ไทยรัฐ"
Post a Comment