Search

ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์ยังไงกับการขายหุ้น FSG - สยามกีฬา

ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์ยังไงกับการขายหุ้น FSG

หลังจาก FSG ยืนยันว่าขายหุ้นส่วนหนึ่งให้ RedBird เป็นจำนวน 10% ของหุ้นทั้งหมด และได้เงินเข้ากระเป๋า 533 ล้านปอนด์

    ถามว่าดีลนี้จะส่งผลยังไงต่อ ลิเวอร์พูล บ้าง? แล้วทำไม เจอร์รี่ คาร์ดิเนล ผู้ก่อตั้ง RedBird ถึงอยากมีส่วนร่วมกับ FSG มากถึงขนาดนี้?

    อย่างแรก จากมุมมองด้านธุรกิจ น่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าของ RedBird 

    การจะซื้อทีมกีฬาที่อยู่ในสหรัฐอเมริกามันมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆ ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บรรดานักลงทุนจากแดนลุงแซมสนใจเกี่ยวกับการซื้อทีมใน พรีเมียร์ลีก แถมการซื้อทีมฟุตบอลในลีกสูงสุด อังกฤษ ก็ไม่ต้องเจอกับข้อจำกัดมากเท่ากับการซื้อทีมกีฬาในสหรัฐฯ 

    การร่วมมือกับ FSG จะทำให้ คาร์ดิเนล สามารถได้ประโยชน์ในด้านการเงินจากตลาดของทั้ง 2 ฝั่งได้ต่อให้มันต้องใช้เงินก้อนโตเพื่อซื้อหุ้นจำนวนไม่มากก็ตาม

     เพราะเดิมทีบรรดานักลงทุนจอมเก๋าๆ ในตลาดวอลล์ สตรีท ก็ให้ความสนใจในวงการฟุตบอลของทวีปยุโรปอยู่แล้ว

    นับตั้งแต่ซื้อ ตูลูส เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน ความพยายามของ คาร์ดิเนล ที่จะพลิกสถานการณ์ของ "เลอส์ ไวโอเล็ตส์" ก็ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลของที่นั่น

    นอกจากนี้ดีลของ RedBird ก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดผลดีต่อทั้ง ตูลูส และ ลิเวอร์พูล 

    หนึ่งในเป้าหมายหลักของ RedBall เจ้าเก่าที่เคยคุยแต่การเจรจาล่ม(เป็นเครือเดียวกับ RedBrid), FSG และการลงทุนของ บิลลี่ บีน(Redball) คือการครอบครองบรรดาทีมฟุตบอลในทวีปยุโรปและบริหารภายใต้รูปแบบที่มีทีมใหญ่ 1 ทีมเป็นแถวหน้า เหมือนอย่างกรณีของ RedBull ที่มี ไลป์ซิก เป็นหัวแถว หรือ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป กับที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

    RedBall มองว่า ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรที่จะอยู่ด้านบนสุดของโครงสร้างแบบนั้น โดยที่มีทีมเล็กกว่าคอยอยู่ด้านล่าง บีน คิดที่จะดูแลโปรเจกต์แบบนั้น และ FSG ก็ให้ความสนใจในการทำงานรูปแบบนี้มากขึ้นในพักหลัง ซึ่งระบบการให้คะแนนที่เข้มงวดขึ้นและข้อจำกัดในการเซ็นสัญญากับนักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปีจากภายนอกสหราชอาณาจักรหลังจากที่มีการใช้มาตรการ Brexit ไปแล้วถือเป็นสิ่งที่เร่งให้กระบวนการนี้เดินหน้าเร็วกว่าเดิม

ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์ยังไงกับการขายหุ้น FSG

    สำหรับ ลิเวอร์พูล โอกาสที่จะได้ร่วมงานกับสโมสรอย่าง ตูลูส อาจช่วยทำให้พวกเขาเอาตัวรอดจากความยากลำบากต่างๆ ได้ 

    การให้นักเตะไปอยู่กับสโมสรอื่นที่ถือเป็นทีมในเครือเดียวกัน, ทำให้ผู้เล่นเหล่านั้นมีประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลในทวีปยุโรปจนกว่าจะถึงเวลาที่พวกเขาสามารถขอใบอนุญาตการทำงานตามกฎของรัฐบาลได้ หรือจนกว่าพวกเขาจะมีอายุที่สามารถย้ายทีมได้อย่างอิสระด้วยค่าตัวที่ดูดีกว่าเดิมถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

    นอกจากนี้ ยังเป็นการแบ่งปันวิธีการทำงานระหว่างองค์กรในแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเล่นหรือการฝึกสอน โดยทั้ง 2 องค์กรจะแบ่งปันเรื่องเหล่านั้นได้ผ่านทางการวิเคราะห์หรือการปฏิบัติการด้านการแพทย์

    คาร์ดิเนล ก็เหมือนกับ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่

    เขาสนใจในเรื่องการวิเคราะห์ด้านกีฬาอย่างมาก และลงทุนไปกับ เซลุส อนาไลติกส์ บริษัทในเท็กซัสที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบริษัทระดับโลกด้านข้อมูลในวงการกีฬาสำหรับทีมกีฬาอาชีพ

    อีกหนึ่งสิ่งที่อาจเป็นประโยชน์ต่อทั้ง RedBird และ ลิเวอร์พูล ก็คือ วาสเซอร์แมน มีเดีย บริษัทด้านการตลาดในวงการกีฬาและด้านเอเยนต์ที่ คาร์ดิเนล กับ RedBird ถือหุ้นอยู่ 30-40 เปอร์เซ็นต์ โดยการซื้อหุ้นเพิ่งมีขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

    วาสเซอร์แมน มีเดีย เป็นเอเยนต์ให้กับแข้งฝีเท้าดีหลายคนของสโมสรชั้นนำในทวีปยุโรป เช่น โจ โกเมซ ของ ลิเวอร์พูล, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ของ เรอัล มาดริด, ฮุสเซม อูแอร์ ของ ลียง, อายเมอริค ลาป๊อร์กต์ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ ของ บาร์เซโลน่า และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ของ เลสเตอร์ ซิตี้

    การมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ วาสเซอร์แมน จะเป็นประโยชต่อ คาร์ดิเนล ไมว่าจะทั้งในกรณีกับ เร้ด ซอกซ์ หรือ ลิเวอร์พูล

    เช่นเดียวกับที่ ลิเวอร์พูล อาจจะได้ประโยชน์ในด้านการเสริมทัพ..

    แล้วมุมมองของ FSG กับการขายหุ้นให้ RedBird? 

ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์ยังไงกับการขายหุ้น FSG

    การเสียหุ้นไปส่วนหนึ่งจะทำให้พวกเขาเอาเงินที่ได้จากจุดนั้นมาใช้ลงทุนกับทีมกีฬาที่พวกเขาเป็นเจ้าของอยู่รึเปล่า?  หรือพวกเขาเพียงแค่จะให้บริษัทอื่นๆ ที่ถือหุ้นอยู่ อย่างเช่น อาร์คโตส พาร์ทเนอร์ส ที่ถือหุ้นอยู่เล็กน้อย ได้ผลประโยชน์ด้านการเงินตามไปด้วยเพื่อเป็นผลดีต่อธุรกิจโดยรวม

    การที่ RedBird  ลงทุนกับ FSG นั้น ทำให้มูลค่าโดยรวมของ FSG อยู่ที่ราว 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

    โดยในส่วนนั้นถือเป็นมูลค่าจาก ลิเวอร์พูล 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ 

    ตัวเลขที่สูงขนาดนี้ทำให้พอจะคาดเดาได้ว่า FSG จะอยู่กับ ลิเวอร์พูล ไปอีกนาน เพราะคงไม่มีใครที่กล้าทุ่มเงินสูงขนาดนั้น

    โดยตอนที่ FSG เข้ามาซื้อ ลิเวอร์พูล พวกเขาใช้เงินไปแค่ราวๆ 300 ล้านปอนด์ เรียกได้ว่าต่างกับปัจจุบันแบบฟ้ากับเหว

    หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจสำหรับ FSG ในการทำสัญญากับ RedBall คือโอกาสที่จะทำให้บริษัทของพวกเขาเป็นบริษัทมหาชน

    ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้เงิน 533 ล้านปอนด์ผ่านทางการขายหุ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่โรคระบาดมันส่งผลกระทบกับการเงินทั่วโลก

    แม้ว่า FSG อาจไม่ชอบแนวคิดของการจ่ายเงินก้อนโต แต่รายจ่ายโดยรวมของ ลิเวอร์พูล ในช่วง 5 ปีหลังสุดถือว่าสูงพอตัว

    พวกเขาจำเป็นต้องพยายามทำให้แฟนจากทีมกีฬาที่พวกเขาเป็นเจ้าของในทั้ง 2 ฟากฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกมีความสุข หลังจากตอนนี้คนเหล่านั้นตั้งคำถามถึงยุทธศาสตร์ในระยาว 

    แถมยังมองด้วยว่าพวกเขาไม่สนับสนุนการเงินเพื่อพยายามทำให้ทีมยังประสบความสำเร็จต่อไปมากเท่าไหร่

    แฟนบางคนของ เร้ดซ็อกซ์ ไม่พอใจที่ทีมเคยต้องผ่านการผลัดเปลี่ยนและสร้างทีมขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาเคยได้แชมป์ เวิลด์ ซีรี่ส์ เมื่อปี 2018 

ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์ยังไงกับการขายหุ้น FSG

    โดยในช่วง 2 ฤดูกาลหลังจากที่พวกเขาได้แชมป์นั้น เร้ดซ็อกซ์ มีผลงานเลวร้ายจนเข้าขั้นเป็นหนึ่งในทีมที่แย่ที่สุดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา 

     ขณะที่ตอนนี้บางคนของ ลิเวอร์พูล ก็เริ่มมองว่าพวกเขาไม่สนับสนุน เจอร์เก้น คล็อปป์ ในตลาดเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมามากเท่าที่ควรทั้งที่ทีมดูจำเป็นต้องเสริมแนวรับอย่างมาก

    ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องทำการเสริมทัพครั้งใหญาในช่วงซัมเมอร์นี้ และตอนนี้ทั้ง 2 ทีมของ FSG กำลังมีหลายโปรเจกต์ที่ต้องใช้เงินเยอะพอตัว

    อย่างเช่นการบูรณะอัฒจันทร์ฝั่ง แอนฟิลด์ โร้ด และการปรับปรุงพื้นที่รอบ เฟนเวย์ พาร์ค ในเมืองบอสตัน

    เงินที่ได้จากการลงทุน หรืออย่างน้อยก็ส่วนหนึ่งจากเงินก้อนนั้นอาจจะถูกใช้เพื่อพยายามทำให้ทั้ง 2 ทีมมีสภาพแข็งแกร่งขึ้น แต่ก็ยังดูเป็นไปได้ยากที่ ลิเวอร์พูล จะได้แข้งชื่อดังมาร่วมทีมหากไม่ขายแข้งตัวหลักออกไปซะก่อน

    FSG ใช้แนวทางนี้ในด้านการเสริมทัพมาโดยตลอดนับตั้งแต่ที่เข้ามาเทคโอเวอร์ ลิเวอร์พูล ในปี 2010

    เงินที่ได้จากการลงทุนอาจเอาไปใช้เพื่อพยายามเชื่อมช่องว่างการพัฒนาสโมสรขั้นต่อไปของทั้ง 2 ทีม ในช่วงที่พวกเขาต้องสู้กับผลกระทบด้านการเงินซึ่งเกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ได้

    โดยที่ เร้ดซ็อกซ์ ขาดทุนไปถึงราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยกัน ขณะที่โปรเจกต์อื่นๆ ที่ FSG นำเสนอเกี่ยวกับอนาคตของ ลิเวอร์พูล อย่างเช่น โปรเจกต์ บิ๊ก พิคเจอร์ และไอเดียของ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก นั้น ถูกชะลอมานานแล้ว

    ดีลนี้จะทำให้ FSG มีทางเลือกมากขึ้น แม้ว่าอาจต้องแลกมากับการเสียหุ้นบางส่วนจนทำให้เสียสิทธิ์ออกเสียงตัดสินใจเรื่องยุทธศาสตร์นิดหน่อยให้กับกลุ่มอื่นไปด้วยก็ตาม

ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์ยังไงกับการขายหุ้น FSG

    ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพิจารณาถึงการที่ คาร์ดิเนล ให้ความสนใจในวงการฟุตบอลยุโรป และศักยภาพที่ดูดีของ ตูลูส แล้วนั้น มันอาจพอบอกได้ว่าเขาสนใจเรื่องธุรกิจของวงการนี้จริงๆ ไม่ใช่แค่ควักเงินเพราะรู้สึกเบื่อๆ

    ก่อนที่จะมีข่าวเรื่องที่เขาสนใจลงทุนกับ ลิเวอร์พูล นั้น คาร์ดิเนล เคยให้สัมภาษณ์บางอย่างกับ อาร์ ยู น็อต เอ็นเตอร์เทน พ็อดแคสต์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จนทำให้พอจะเข้าใจถึงมุมมองที่เขามีต่อแฟนบอลและวัฒนธรรมได้ในระดับหนึ่ง

    "ทุกวันนี้โลกของเรามันขึ้นอยู่กับเงินเป็นหลัก แต่บางครั้งคุณก็ต้องหยุดความคิดของตัวเองแล้วบอกว่า -เฮ้ มันจะมองแค่เรื่องเงินอย่างเดียวไม่ได้- เหมือนกัน"

    "เมื่อถึงเวลาที่คุณใกล้ตายแล้วย้อนนึกถึงความหลังแล้วน่ะ คุณก็อาจจะรู้สึกเสียดายก็ได้ถ้าต้องพลาดบางโอกาสไปเพียงเพราะเรื่องเงิน"

    "สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นในตอนที่ผมลงทุนไปกับวงการกีฬาในทวีปยุโรปมากกว่าที่สหรัฐฯ และเอารูปแบบการลงทุนของเราไปใช้กับวงการกีฬราของทวีปยุโรปก็คือเรื่องของความหลากหลาย"

    "ไม่ว่าจะเป็นที่ อเมริกา หรือ ยุโรป คุณก็ต้องให้ความเคารพแฟนๆ คุณต้องเคารพสังคมและหน้าที่ต่อชุมชนที่คนเป็นเจ้าของทีมต้องมีต่อสังคมนั้นๆ ด้วย" หุ้นส่วนใหม่ของ FSG เผย

    HOSSALONSO

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
เพิ่มเพื่อน

Let's block ads! (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์ยังไงกับการขายหุ้น FSG - สยามกีฬา )
https://ift.tt/3fwg8rk
กีฬา

Bagikan Berita Ini

0 Response to "ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์ยังไงกับการขายหุ้น FSG - สยามกีฬา"

Post a Comment

Powered by Blogger.