Search

เปิดชีวิต “ม้า อรนภา” หลังไม่ได้ทำงานในวงการ เคลียร์ข่าวเมาท์!! ขายสมบัติเก่ากิน - มติชน

เปิดชีวิต “ม้า อรนภา” หลังไม่ได้ทำงานในวงการ มุ่งหน้าทำธุรกิจออนไลน์ พร้อมเคลียร์ข่าวเมาท์!! ขายสมบัติเก่ากิน

มัา อรนภา พิธีกรชื่อดังที่อยู่ในวงการมากว่า 40 ปี ที่วันนี้จะมาอัปเดตชีวิตหลังไม่ได้อยู่ในวงการ ผันตัวไปเป็นแม่ค้าออนไลน์ โดนเม้าท์ งานหด เงินหาย จนต้องขายสมบัติเก่ากิน ผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ทสงช่องวัน 31 ที่มีหนิง ปณิตา และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร แถมมาล้วงความลับเรื่องความรักที่น่าอิจฉาเว่อร์ หัวบันไดไม่เคยแห้ง ผู้ชายควักเงินออกมาเปย์หมดหน้าตัก

ที่ผ่านมาคุณแม่ผ่านมรสุมมาเยอะ ก็ต้องใช้กำลังกาย กำลังใจในการฝ่าฟันมัน?
ม้า : ไม่ได้ฝ่าฟันอะไร อยู่นิ่งๆ เฉยๆ สบาย มีความสุขดี

ขอย้อนกลับไปที่เรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนั้นทั้งหมด จริงๆ คุณแม่ทำอะไรอยู่ มันถึงเกิดเรื่องราวอันนั้นขึ้น?
ม้า : ก็อย่างที่รู้ก็ไปคอมเมนต์ก็แค่นั้นเอง พูดแค่นั้นพอ ความรู้สึกตอนนั้นก็รู้ว่าเหตุการณ์มันเกิดอะไรขึ้น

คิดว่าเรื่องมันจะรุนแรงมากไหม?
ม้า : ในเมื่อเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โต รุนแรง เราก็ต้องเล่นไปบทบาทนั้น เพราะมันเป็นแบบนั้น เราจะไปคัดค้านอะไรมันก็เป็นไปไม่ได้ ดิฉันไม่เคยคัดค้านอะไรเลย

คุณแม่หายไปกี่เดือนแล้ว?
ม้า : หายจากหน้าจอเหรอ น่าจะ 5 เดือนแล้ว

เราก็จะเห็นคุณแม่ในโซเชียล ขายของ?
ม้า : จริงๆ ในโซเชียล ดิฉันก็หายไป 4 เดือน

หมายถึงว่าวันนั้นตั้งแต่มีเรื่องก็ไม่ได้เล่นโซเชียล?
ม้า : ก็ไม่ได้เล่นเลย ต้องบอกว่าดิฉันอกหัก คือหมายถึงว่ามันมะรุมมะตุ้มอะไรขนาดนั้น ดิฉันก็เลยคิดว่าถ้าเรื่องราวมันเป็นขนาดนี้ มารุมดิฉันขนาดนี้ ดิฉันไม่เล่นเลยก็ได้ แต่ก็ยังพูดคุยกับเพื่อนในไลน์

แล้วได้เข้าไปอ่าน เข้าไปดูไหม?
ม้า : ดูของคนอื่นดู แต่ว่าไม่ได้คอมเมนต์อะไรนะคะ ดูความเคลื่อนไหว ตามลักษณะคนเคยอ่านข่าวมาก่อน

อกหักกับผิดหวังต่างกันไหม?
ม้า : มันต่างกัน

จริงๆ ในเหตุการณ์ที่ผ่านมามันมีคำว่าผิดหวังไหม?
ม้า : ไม่มี ดิฉันไม่เคยผิดหวังอะไรเลยในชีวิต รู้สึกอย่างเดียวคือ น้อยใจนิดนึง ไม่เสียใจด้วยนะ แต่น้อยใจที่ไม่มีเงินจากการทำงานในแต่ละเดือน ซึ่งฉันไม่เคยน้อยใจใครเลยนะ คุณอาจจะคิดว่าดิฉันน้อยใจในสิ่งที่ทุกคนพยายามให้ดิฉันออกจากงานหมดทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มทำงานมาจนมาถึงวันที่เกิดเหตุการณ์ 30-40 ปี ดิฉันไม่เคยน้อยใจ ต้องขอบคุณกับทุกๆ คนที่ให้โอกาสดิฉัน หม่ว่าจะเป็นเจ้าของรายการ เจ้าของละคร เจ้าของเวที แฟชั่นshow เจ้าของเสื้อผ้า คือทุกสิ่งทุกอย่าง จนมาถึงจุดนึงเพื่อนฝูงดิฉันเขาไปกันหมดแล้ว ดิฉันยังอยู่ อยู่เลย แล้วดิฉันก็ยังยืนอยู่เป็นหนึ่งตลอด อันนี้ดิฉันต้องขอบคุณเขา สิ้นสุดไปเมื่อตุลาคม ปีที่แล้ว

ตอนนั้นที่โดนโทรแคลเซิลงาน คุณแม่ทำอะไรอยู่?
ม้า : ไม่มีใครโทรมาเลย เขาใช้วิธีการพูดออกรายการโทรทัศน์กับลงในสื่อโซเชียลในอินสตาแกรม ดิฉันนั่งดูโทรทัศน์กับคุณแม่ เขาก็ประกาศออกมา พอเขาประกาศมาว่าดิฉันไม่ได้ทำงานนี้แล้ว ดิฉันก็เฉยๆ

ความรู้สึกคุณยายที่นั่งอยู่ตรงนั้น?
ม้า : แม่ก็เฉยๆ แต่ดิฉันรู้สึกว่า ลูกฉันไม่ได้ทำงานแล้ว แต่เขาก็เฉย  ดิฉันก็เฉยแล้วก็นิ่ง ไม่มีความทุกข์ใดๆ ทั้งสิ้น

ได้ยกหูโทรศัพท์ถามต้นสังกัดไหม?
ม้า : ไม่มี ดิฉันเป็นคนไม่เซ้าซี้ จะโทรไปทำไม เขาสิควรจะโทรหาดิฉัน ดิฉันจะโทรไปหาทำไม

วันนั้นพอเกิดเหตุการณ์แบบนั้น พี่รู้ไหมว่ามันจะมีเรื่องงานตามมา?
ม้า : ไม่รู้สิ ดิฉันไม่คิด ใครจะไปคิดละ

คุณแม่น้ำตาตกไหม?
ม้า : ไม่ตก ไม่เคยร้องไห้เลยกับการที่ดิฉันถูกออกจากงานทั้งหมด ทุกรายการ ดิฉันไม่ได้ร้องไห้เลย ไม่ได้เสียใจ ต้องขอบคุณมากกับการที่ดิฉันได้ปฏิบัติธรรม แล้วนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี ต้องขอบคุณที่ดิฉันเข้าใจทุกสิ่ง ทุกอย่าง ไม่เสียใจเลย แต่ร้องไห้นะ

ล่าสุดคุณแม่แต่งหน้า แล้วบอกว่าคิดถึงการทำงานในวงการบันเทิง?ม้า : ดิฉันไม่ได้พูดว่าในวงการบันเทิง ดิฉันเขียนไปว่าอยากทำงาน ต้องบอกอย่างนี้ในแคปชั่น ในการคอมเมนต์ หรือว่าในการเขียนอะไรต่างๆ ในลักษณะของดิฉันจะเป็นสั้นๆ ได้ใจความ เพราะดิฉันเป็นคนเขียนหนังสือมาก่อน รูปนี้เป็นรูปที่ดิฉันไปเดินแบบสนุกๆ ในตลาด ดิฉันก็ไปขายของ ไปขายห่อหมก แล้วก็ไปช่วยเขาเดินแบบ ก็จะมีนางแบบคนอื่นๆ ดีไซเนอร์คนอื่นๆ มาช่วยกันเดินสนุกๆ เผื่อที่ทำให้ตลาดไม่เหมือนที่อื่น

ลึกๆ แล้ว อยากกลับไปทำงานในวงการบันเทิงไหม?
ม้า : ในอาชีพอย่างพวกเราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพิธีกร นะกแสดง มันเป็นอาชีพรอให้เขาเรียก ดิฉันก็ต้องรอให้เขาเรียก เราก็ทำตัวให้เรามีศักยภาพที่ดี เพื่อพร้อมที่จะทำงาน

วันนี้พร้อมกลับมาทำงานไหม?
ม้า : ก็พร้อมเสมอ มีไหมละ อย่าใช้คำพูดว่าเป็นกำลังใจให้นะ อย่าพูด กระทำเลย

ชีวิตคุณแม่ตอนนี้จะเห็นว่าคุณแม่ไลฟ์ขายของ ส่วนมากคุณแม่ขายอะไรบ้าง?
ม้า : ขายห่อหมก นั่นคือทำคลิปเพื่อมาบอกว่าเดี๋ยววันนั้นวันนี้ฉันจะขายห่อหมกนะ ก็จะเป็นคลิปในไอจี และในเฟซบุ๊กเท่านั้น แล้วจะมีลงในเพจห่อหมดแม่คุณม้า ลูกๆ หลานๆ ทำเพจอันนี้ให้คุณแม่แค่นั้นเอง ดิฉันก็จะมีการขายแบบนั้น

บางทีเห็นมีเสื้อผ้า?
ม้า : ตั้งแต่ตอนที่ดิฉันทำงานมาตลอด ก่อนหน้านี้ 2 ปีผ่านมา โปรดิวเซอร์คนนึงก็ลุกมาทำเพจแม่ม้ามาแล้ว เราเห็นว่าเรื่องราวออนไลน์มันมีอิทธิพลมากขึ้น ก็ทำออนไลน์ดีกว่า เราก็เลยหันมาทำออนไลน์

คุณแม่เอาแบรนด์เนมหลักเป็นแสน เป็นหมื่น มาขายหลักพัน?
ม้า : พอหลังจากนั้นเราก็หยุดไป เพราะด้วยเศรษฐกิจการหาโฆษณามันก็ลดน้อยถอยลง เราห็เลยหยุดไปตั้งแต่มีโควิด พอมาปลดล็อกครั้งแรกเราก็เลยคิดว่าเรามาทำปักฝุ่นกันใหม่ เราก็เริ่มกลับมาทำคอนเทนต์กันใหม่ แต่คอนเทนต์มันยังไม่ออก เราก็เลยทำไลฟ์ขายของกันดีกว่า พอเราเริ่มปั๊บ เราก็ยังหาลูกค้าไม่ได้ จะขายอะไรดี พี่เคยเอาเสื้อผ้าไปขาย สาเหตุเพราะว่าการปลดล็อกครั้งที่1 ของโควิด ทางห้างแห่งนึงเขาให้พื้นที่กับคนในวงการแฟชั่นให้เอาของไปขาย โดยที่ไม่คิดค่าเช่า แล้วมีน้องคนนึงเขาเอาไปขาย ฉันบอกว่าฉันมีเสื้อผ้าเยอะมากใส่ไม่ค่อยได้แล้ว บางทีมันก็เบื่อแล้วก็ขายตัวละ 500-1000-1500 จากตัวละ 4-5 หมื่น

เสียดายไหม?
ม้า : ไม่เสียดาย ของนอกกาย อย่าไปเสียดาย

คุณแม่ได้อะไร?
ม้า : ไม่ได้อะไร ได้สิ่งนึงคือตู้ฉันไม่แตกแล้ว

กลัวคนมองไหมว่าคุณม้า อรนภา จากที่เลิศหรู แต่มาขายของแบบนี้?ม้า : ดิฉันไม่ได้เลิศหรูขนาดนั้น คุณไปสร้างภาพเองว่าดิฉันเลิศหรูขนาดนั้น

พอแม่มาไลฟ์ขายของในคอมเมนต์ก็บอกว่าคุณแม่ใกล้จะหมดตัวหรือเปล่า แม่เลยต้องเอาของออกมาขาย?
ม้า : เอางี้นะ ดิฉันทำงานมา 30-40 ปี คุณคิดว่าดิฉันจะไม่มีเงินเก็บเลยเหรอ ดิฉันใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทด้วย

ล่าสุดขายรถ?
ม้า : คือดิฉันมีรถตู้ เอาไว้สำหรับทำงาน เพราะมีคนขับรถ อันที่สอง ดิฉันมีรถสปอร์ตเอาไว้ใช้สำหรับวันที่ไม่มีคนขับรถ ดิฉันอยากได้รถญี่ปุ่นคันเล็กๆ มือสอง 4-5 แสน แล้วซื้อเงินสดแล้วก็จบไป แต่ไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นรถสปอร์ตคันนี้ เพียงแค่พูดว่ารถสวย คนฟังเขาก็เลยซื้อให้

คุณแม่บอกว่าเอานถที่คนซื้อให้มาขาย รถสปอร์ตที่คุณแม่ขับทุกวันนี้ คุณแม่ไม่ได้ซื้อเอง?
ม้า : ไม่เคยซื้อเอง ยังมีเครื่องเพชรอีกเยอะแยะมากมายที่ไม่ได้ซื้อเอง

รถสปอร์ตราคาเท่าไหร่?
ม้า : 3.6 ล้าน จริงๆ มัน 3.8 ล้าน แต่เขาลดให้ รถสปอร์ตคันนี้อยู่มา 7 ปีใช้ไปหมื่นโล ฉันปฏิเสธว่าไม่เอา แต่เขาซื้อมาแล้ว ฉันก็บอกว่าไม่เอา มันเป็นสิ่งที่ใหญ่เกินไปที่มาให้ของที่มันเป็นล้านๆ ก็เพราะว่าเขารักฉัน จบ แต่ดิฉันไม่ได้รักเขา ดิฉันเป็นกัลยาณมิตรกับเขาแค่นั้นเอง แต่ไม่ใช่อยู่ๆ เราไปเอาของเขานะ พอเราเริ่มรู้จักกัน ฉันให้เขาก่อนนะ ฉันให้ทั้งความรู้ การศึกษา ฉันให้ข้าวของ วันเกิดฉันให้แบรนด์เนม ฉันให้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง เรารู้จักที่จะให้เขาก่อน

คุณแม่เป็นสายเปย์ด้วยไหม?
ม้า : ฉันไม่ได้เป็นสายเปย์ คือมันต้องมีน้ำใจ เรารู้จักกัน การที่สานสัมพันธ์อยากจะเป็นเพื่อน จนถึงอยากเป็นกัลยาณมิตร เราไม่รู้จักการให้เหรอ เราคบกันด้วยผลประโยชน์เหรอ ก็เหมือนรายนั้นที่ให้รถ ให้เครื่องเพชรก็ด้วยผลประโยชน์อยากจะได้เราไง สุดท้ายไม่ได้มันก็เลิกรากันไป

ผู้ชายคนนั้นคือใคร?
ม้า : เรารู้จักกัน เขาทำธุรกิจอยู่ทางใต้ เวลาเขามีงาน เราก็ไปช่วย เราจะไปทำคอนเทนต์ต่างๆ ทำโชว์ โดยที่ไม่คิดอะไรเขาเลย พอดิฉันคบใคร ดิฉันจะเป็นในลักษณะแบบนี้ คนนี้คือคนล่าสุด

เห็นว่ามี 2 คน คนนึงเป็นผู้ชาย คนนึงเป็นทอม?
ม้า : นั่นคือ 7 ปีที่แล้ว ที่เขาซื้อรถให้

อาจารย์เป็นหนึ่ง : แกมีเสน่ห์ทุกปี ย้อนกลับไปตอนนั้นมีคนนึงมาชอบแก แล้วซื้อทุกอย่างให้แก โดยที่แกไม่เคยเข้าห้องด้วยกัน ไปโรงแรมก็จะนอนแยกห้องหันตลอด
ม้า : ก็คือรถคันที่เห็นนี่แหละ เสร็จแล้วพอหลังจากนั้นก็มารู้จักกับอีกคนนึง ก็รู้จักกันมา 3 ปี สนิทสนมกันระดับนึง ก็มีน้ำใจต่อกัน ก็มีอยู่วันนึงเขามาถามว่าทำไมไม่ใช้รถญี่ปุ่น ยี่ห้อนี้ละ ดีมากเลย ฉันก็บอกว่าไม่เอาแล้ว ฉันไม่อยากมีภาระ เพราะว่าชีวิตนี้ไม่ได้มีหนี้สินอะไรเลย เรื่องอะไรจะมาก่อหนี้ เขาบอกเอาอย่างนี้ไหม เดี๋ยวผมซื้อคันสีขาวสปอร์ตนี้ไป แล้วเงินที่เขาซื้อไปก็ไปออกรถญี่ปุ่นคันนี้ซะ เราก็บอกถ้าอย่างนั้นโอเค เพราะรถสปอร์ตคันนี้มีคนรู้จักกันเอาไปฝากขาย 2 ปียังขายไม่ได้เลย อยู่มาวันนึงมีคนมาซื้ออย่างนี้ ฉันก็ขายเลยสิ เพราะมัน 7 ปีแล้ว 1.คือการซ่อมมันจะแพง รถตู้อีก ก็เป็นการลดภาระ

ตอนคุณแม่จะขายได้บอกคนที่ซื้อให้ไหม?
ม้า : ไม่ได้คุยกันแล้ว หมายถึงเจอก็คุย แต่ไม่ได้มีคอนแท็ก แต่เขาก็รู้อยู่แล้วเวลาทำอะไรฉันก็ลงสื่อให้คนเห็น

แล้วคนที่เป็นทอมละ?
ม้า : ฉันก็เบื่อมากเลย ทำไมก็ไม่รู้ เวียนหัวเหมือนกัน

ทอมนี่เมื่อไหร่?
ม้า : เมื่อ 7 ปีที่แล้ว

ทำบุญด้วยอะไร?
ม้า : ไม่ได้ทำบุญด้วยอะไร เราต้องมีน้ำใจ คนเราไม่ใช่เป็นผู้รับอย่างเดียว ต้องรู้จักที่จะให้ก่อน

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ม้า อรนภา

Let's block ads! (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( เปิดชีวิต “ม้า อรนภา” หลังไม่ได้ทำงานในวงการ เคลียร์ข่าวเมาท์!! ขายสมบัติเก่ากิน - มติชน )
https://ift.tt/2YQoyjG
บันเทิง

Bagikan Berita Ini

0 Response to "เปิดชีวิต “ม้า อรนภา” หลังไม่ได้ทำงานในวงการ เคลียร์ข่าวเมาท์!! ขายสมบัติเก่ากิน - มติชน"

Post a Comment

Powered by Blogger.