Search

สรุปข่าวต่างประเทศรอบสัปดาห์ โลกปั่นป่วน โควิดยังอยู่ หลายประเทศทรุดหนัก - ไทยรัฐ

planetyugie.blogspot.com

สถานการณ์ข่าวต่างประเทศรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 3 ส.ค.-9 ส.ค.63 ทั่วโลกปั่นป่วนเพราะพิษโควิด-19 สหรัฐฯ อินเดีย ฟิลิปปินส์ ทรุดหนัก ซ้ำร้ายเบรุตยังเจอระเบิดครั้งรุนแรง

ผ่านมากว่า 7 เดือนแล้ว สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ดูเหมือนไม่ได้มีท่าทีว่าจะทุเลาลงมากนัก จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากหลายประเทศทั่วโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อสะสมแตะ 19.5 ล้านรายแล้ว

โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา บราซิล และอินเดีย ยังคงเป็น 3 ประเทศในโลกที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มในระดับหลักหมื่นรายต่อวัน ส่งผลให้ทั้ง 3 ประเทศมียอดผู้ป่วยโควิด-19 สะสมรวมกันราว 10 ล้านราย ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก

  • อินเดียช็อก ติดเชื้อทะลุ 2 ล้าน แซงขึ้นอันดับ 3 ของโลก

กระทรวงสาธารณสุขของประเทศอินเดีย เปิดเผยในวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมาว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ถึง 62,170 ราย ภายในวันเดียวกัน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศทะลุ 2 ล้านในเวลาอันรวดเร็ว ตัวเลขขยับขึ้นมาเป็น 2,025,409 รายแล้ว โดยพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านคนภายในเวลาเพียง 20 วันเท่านั้น เรียกได้ว่าเร็วกว่าประเทศใดในโลก หลังจากทางการขยายขอบเขตการตรวจโรคให้กว้างขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทางรัฐบาลอินเดียก็ไม่พ้นที่จะถูกผู้เชี่ยวชาญกล่าวหาว่า นับจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ต่ำกว่าความเป็นจริงจากหลายเหตุผล ทั้งในเรื่องของความล่าช้าในการรายงาน ไปจนถึงกฎการจำแนกว่าผู้เสียชีวิตรายใดตายเพราะไวรัสโคโรนา เป็นต้น

ซ้ำร้ายกว่านั้น ในวันเดียวกันนี้ เกิดเหตุไฟไหม้ห้องไอซียูของโรงพยาบาลเอกชน ในเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของประเทศ ทำให้ผู้ป่วยโควิด-19 ดับสลด 8 ศพ สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับบรรดาญาติของผู้เคราะห์ร้ายเป็นอย่างมาก

ล่าสุดมีเหตุสะเทือนขวัญอีกรอบ หลังเครื่องบินโดยสาร ‘แอร์ อินเดีย เอ็กซ์เพรส’ ที่นำชาวอินเดียตกค้างจากสถานการณ์โควิด-19 เดินทางมาจากนครดูไบ ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ก่อนจะตกลงเนินเขา จนเครื่องบินขาดเป็นสองท่อน เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ขณะพยายามลงจอดที่สนามบินนานาชาติ Calicut ในรัฐเกรละ ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย ท่ามกลางฝนตกหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ศพ

  • ฟิลิปปินส์ล็อกดาวน์อีกรอบ ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน

รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศคำสั่งล็อกดาวน์กรุงมะนิลา และ 4 จังหวัดโดยรอบ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และมีผลบังคับทันทีในวันอังคารที่ 4 ส.ค. 63 โดยให้เวลาประชาชนเตรียมตัวในเรื่องต่างๆ แค่เพียง 24 ชม.เท่านั้น ทำให้ประชาชนมากถึงประมาณ 25 ล้านคนในประเทศฟิลิปปินส์ต้องหวนกลับมาอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 อีกครั้ง และยังทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องตกค้างอยู่ในเมืองหลวง เพราะไม่มีรถโดยสารที่จะเดินทางกลับไปบ้านเกิด

การกลับมาใช้มารตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เกิดขึ้นหลังจากกระทรวงสาธารณสุขตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่นับ 5,032 ราย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งทะยานกว่า 100,000 รายแล้ว จนทำให้องค์กรเครือข่ายการแพทย์นับ 80 องค์กร ออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้ประธานาธิบดีดูเตร์เตรีบออกคำสั่งประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในความร้ายแรงยังมีสัญญานดีอยู่บ้าง หลังบริษัทไชน่าเนชันเเนลไบโอเทคกรุ๊ปของจีน เผยว่า โรงปฏิบัติการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ และคาดว่าจะสามารถผลิตได้ 220 ล้านโดสต่อปีเลยทีเดียว

  • เดือดระอุราวสมรภูมิรบ แอมโมเนียมไนเตรท ระเบิดโกดังเบรุตพังพินาศ

เกิดเหตุโศกนาฏกรรมสุดสะเทือนขวัญ หลังสารแอมโมเนียมไนเตรทน้ำหนักราว 2,750 ตัน ทำให้เกิดเหตุระเบิดรุนแรงครั้งใหญ่ในกรุงเบรุต เมืองหลวงประเทศเลบานอน เมื่อเย็นวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่าร้อยศพ บาดเจ็บกว่า 5,000 คน สิ่งปลูกสร้างพังราบคาบ สร้างความเสียหายหนักทั่วเมือง

เบื้องต้นทางการเลบานอนได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่การท่าเรือจำนวนหนึ่งที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบท่าเรือแห่งนี้ไว้ในบ้านพักแล้ว เพื่อสอบสวนถึงสาเหตุของมหันตภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น

ด้านหัวหน้าสำนักงานศุลกากร บาดรี ดาเฮอร์ ได้ชี้แจงในเบื้องต้นว่า สำนักงานของตนได้พยายามเรียกร้องให้ทางการย้ายสารเคมีอันตราย แอมโมเนียมไนเตรทนี้ออกไปจากโกดังที่ท่าเรือ แต่ก็ไม่เคยได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังแต่อย่างใด

ขณะที่ด้านโฆษกบริษัทผู้ผลิตวัตถุระเบิดของประเทศโมซัมบิก (FEM) เผยว่า ทางบริษัทเป็นผู้สั่งซื้อสารแอมโมเนียมไนเตรท 2,750 ตัน เพื่อใช้ผลิตวัตถุระเบิดสำหรับขายให้แก่บริษัทเหมืองแร่จริง แต่ถูกทางการเลบานอนนำไปเก็บไว้ที่คลังสินค้าของท่าเรือกรุงเบรุตนานเกือบ 7 ปี เพราะเรือที่ขนส่งเกิดขัดข้อง ต้องจอดเทียบท่าที่กรุงเบรุต แต่ด้านทางการเบรุตตรวจสอบแล้วพบว่า เรือไม่พร้อมออกทะเล จึงสั่งห้ามเดินเรือ ทำให้กัปตันและลูกเรือทั้งหมดต้องสละเรือ

ส่วนด้านทางการเลบานอนอ้างว่า พยายามติดต่อชาวรัสเซียเจ้าของเรือ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ต้องเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรททั้งหมดไว้ในคลังสินค้าท่าเรือหมายเลข 12 กระทั่งเกิดเหตุระเบิดดังกล่าวขึ้น

ล่าสุดเหตุการณ์เริ่มบานปลาย ก่อเป็นความไม่สงบ หลังชาวเลบานอนนับหมื่นออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลด้วยความโกรธแค้น ซึ่งพวกเขาโทษว่าเป็นเพราะความสะเพร่าของรัฐบาล ที่พวกเขาเชื่อว่ามีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดครั้งนี้ จนเกิดความสูญเสียและความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทำให้ประชาชนกว่า 3 แสนชีวิตไร้ที่อยู่ การประท้วงทวีความรุนแรง และมีการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชน มีการใช้กระสุนจริงเกิดขึ้น ทำให้มีผู้บาดเจ็บแล้วกว่า 100 คน ล่าสุดยังระบุไม่ได้ว่าฝ่ายใดเป็นผู้ลงมือยิง.

อ่านเพิ่มเติม...




August 09, 2020 at 11:57AM
https://ift.tt/3knADGZ

สรุปข่าวต่างประเทศรอบสัปดาห์ โลกปั่นป่วน โควิดยังอยู่ หลายประเทศทรุดหนัก - ไทยรัฐ

https://ift.tt/3cN12d5


Bagikan Berita Ini

0 Response to "สรุปข่าวต่างประเทศรอบสัปดาห์ โลกปั่นป่วน โควิดยังอยู่ หลายประเทศทรุดหนัก - ไทยรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.