ในที่สุด การแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2020 ณ สังเวียนครูซิเบิลเธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ได้เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว ซึ่งในช่วงดึกของวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคมนี้ แฟนกีฬาแม่นรูก็จะรู้กันแล้วว่า ใครจะคว้าแชมป์โลกประจำปีนี้ไปครอง ระหว่าง “เดอะร็อกเก็ต” รอนนี่ โอซัลลิแวน มือ 6 ของโลกจากอังกฤษ และ “เดอะวอริเออร์” ไคเรน วิลสัน มือ 8 ของโลกจากชาติเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม กว่าที่ทั้งคู่ จะผ่านเข้ามาถึงในรอบชิงดำ ต่างฝ่ายต่างเอาชนะคู่แข่งในรอบรองชนะเลิศ มาแบบเลือดตาแทบกระเด็น ท่ามกลางความกดดันถึงขั้นสุดขีด จนทำให้แมตช์รอบรองชนะเลิศทั้ง 2 คู่ กลายเป็นแมตช์ดราม่า ที่ทำให้แฟนสนุกเกอร์ ต้องลุ้นกันแบบไม่กระพริบตา ดึกดื่นแค่ไหนก็ไม่รู้สึกง่วง เพราะสถานการณ์พลิกไปพลิกมาโดยตลอด จนไม่รู้ว่าจะออกหน้าไหน
เริ่มจากรอบตัดเชือกของสายบน นับเป็นการโคจรมาพบกันของ 2 นักสอยคิวม้ามืดระหว่าง ไคเรน วิลสัน กับ แอนโธนี แม็คกิลล์ มือ 39 ของโลกจากสกอตแลนด์ ที่เข้ามาถึงรอบนี้เป็นครั้งแรก
ใครจะไปเชื่อว่า นักสอยคิวแดนวิสกี้ ที่ตามหลังในเซสชั่นที่ 3 ด้วยสกอร์ 11-13 เฟรม จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ออกคิวในเซสชั่นสุดท้ายได้อย่างไม่ตื่นตระหนก จนพลิกแซงขึ้นแท่นก่อน 16-15 เฟรม
อย่างไรก็ตาม ไคเรน ก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน ก่อนจะไล่มาเสมอกันที่ 16-16 เฟรม ต้องดวลกันถึงฎีกาในเฟรมที่ 33
ปรากฏว่า บรรยากาศในเฟรมตัดสิน เต็มไปด้วยความตึงเครียด ทั้งสองฝ่ายต่างเน้นแทงรัดกุมเป็นหลัก อีกทั้ง พอได้โอกาส ก็มักจะสลับกันพลาดง่ายๆ เนื่องจากแบกรับความกดดันไม่ไหว จนเฟรมนี้ ต้องดวลกันมาราธอนนานเกินกว่า 1 ชั่วโมง
สุดท้าย กลายเป็น ไคเรน วิลสัน ที่ได้อานิสงค์จากลูกฟลุ๊ค จากการเบิ้ลเขียว 3 ชิ่งลงหลุมบนขวา ทั้งๆที่ต้องการแทงกันธรรมดาเท่านั้น ก่อนจะเป็นที่มาของชัยชนะในแมตช์นี้ เข้าศึกชิงแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในชีวิต
จากนั้น รอบรองชนะเลิศสายล่าง ต่างดราม่าไม่แพ้กัน และไม่มีใครคาดคิดว่า ซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 แห่งวงการอย่าง รอนนี่ โอซัลลิแวน จะกลับมาได้รับการชูมือเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด หลังจากเขา ตกที่นั่งลำบากมาตลอด นับตั้งแต่การแข่งขันในช่วงเซสชั่นที่ 2 และเซสชั่นที่ 3 เมื่อโดนความเหนียวหนึบชนิดเขี้ยวลากดินของ มาร์ค เซลบี้ มือ 7 ของโลกเล่นงานเข้าไปหลายช็อต
อดีตแชมป์โลก 3 สมัยจากเมืองเลสเตอร์ ใช้แท็คติกดึงเกมให้ช้า แทงละเอียดรอบคอบและรัดกุมแบบยกกำลังสอง ทำให้ “เดอะร็อกเก็ต” เกิดอาการสติแตก ถึงขั้นไปไม่เป็น จนพลาดช็อตง่ายๆหลายครั้ง
กระทั่งในเซสชั่นสุดท้าย รอนนี่ ได้เปลี่ยนวิธีการเล่น ด้วยการเปิดหน้าชวนทะเลาะ ตบได้ตบ เพราะหากจะมากันสู้กับมวยกันธรรมชาติอย่าง มาร์ค เซลบี้ ก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว จะเห็นได้ว่า ช่วงเซสชั่น 2 และ 3 ที่ผ่านมา แทงกันกันไปกันกันมา รอนนี่ พลาดก่อนแทบทุกครั้ง ก่อนที่ เซลบี้ จะเก็บกวาดจนชนะ
เมื่อยามที่โดนวางสนุ้กแล้วแก้ยาก ก็แก้แบบวัดดวงไปเลย เสมือนเป็นการผ่อนคลาย ไม่ต้องคิดมากจนประสาทเสีย มิเช่นนั้นจะไปเข้าทาง มาร์ค เซลบี้
ใครจะไปคิดว่า วิธีการเล่นแบบนี้ กลับได้ผล เมื่อไม่ต้องแทงกันสู้กับ เซลบี้ ความแม่นยำของเขาเริ่มกลับมา การโฉบตบลูกยาวๆกลับมาแม่นเหมือนเดิม
จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่เฟรม 31 ในขณะนั้น “เดอะร็อกเก็ต” โดน เซลบี้ ขึ้นแท่นนำ 16-14 เฟรม และแพ้อีกไม่ได้ ทว่าเขากลับสู้ลูกยากแบบไม่กลัวแพ้ ด้วยการตบแดงไปลงหลุมล่างขวา ก่อนจะเข้าเบรกยาวไม้เดียวหมดโต๊ะ 138 แต้ม
การกดเซ็นจูรี่เบรกดังกล่าว เสมือนเป็นการจุดชนวนเรียกความมั่นใจของ รอนนี่ ให้กลับมาอีกครั้ง ก่อนจะคว้าชัยได้ในอีก 2 เฟรมถัดมา แล้วพลิกกลับมาคว้าชัยในที่สุด 17-16 เฟรม เข้าไปลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 6 ได้อย่างยอดเยี่ยม
ความดราม่าที่เกิดขึ้นกับเกมรอบรองชนะเลิศทั้ง 2 แมตช์ นับว่าหาดูได้ยาก หากแฟนสนุกเกอร์คนใด ไม่ได้ดูแบบสดๆ บอกได้คำเดียวว่าพลาด
สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ แน่นอนว่า รอนนี่ ถูกมองว่าเป็นต่อ ไคเรน วิลสัน หลายเท่าตัว เพราะนอกจากจะประสบความสำเร็จมากกว่าแล้ว ยังมีประสบการณ์เข้าชิงที่สังเวียนครูซิเบิล มากกว่าอีกด้วย
ซึ่ง “เดอะร็อกเก็ต” เข้าชิงมาแล้วก่อนหน้านี้ 6 ครั้ง ได้แชมป์โลกถึง 5 ครั้ง โดยอกหักคว้ารองแชมป์โลกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อปี 2014 ที่แพ้ มาร์ค เซลบี้ ในรอบชิงไปอย่างเจ็บแสบ 14-18 เฟรม ทั้งๆที่วันแรก(เซสชั่น 1 และ 2) นำก่อน 10-7 เฟรม
ตรงกันข้ามกับ ไคเรน วิลสัน ที่นอกจากจะเข้าชิงเป็นครั้งแรกแล้ว ผลงานการพบกัน รอนนี่ ก็ยังเหนือกว่าอีกด้วย จากการเอาชนะไปได้ 4 ครั้ง ส่วน ไคเรน คว้าชัยได้ 2 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม การพบกันครั้งล่าสุด ในศึกเวลช์โอเพ่น 2020 รอบรองชนะเลิศ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลับเป็น ไคเรน ที่เอาชนะไปอย่างหวุดหวิด 6-5 เฟรม
การพบกันในครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรก ที่ทั้งคู่พบกันในศึกชิงแชมป์โลก ณ สังเวียนครูซิเบิลเธียร์เตอร์ น่าติดตามว่า แชมป์โลกปี 2020 จะตกเป็นของใคร
หาก ไคเรน วิลสัน สามารถโค่น รอนนี่ จะทำให้เขากลายเป็นแชมป์โลกครั้งแรกทันที
แต่หาก รอนนี่ เป็นฝ่ายชนะ นอกจากจะทำให้ “เดอะร็อกเก็ต” เป็นแชมป์โลกสมัยที่ 6 แล้ว ยังจะทำให้เขาทำสถิติแซง “มัจจุราชผมทอง” สตีเฟ่น เฮนดรี้ ตำนานสอยคิวชาวสกอต ด้วยการเป็นนักสนุกเกอร์ที่คว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 37 รายการอีกด้วย หลังจากในตอนนี้ เขาฟาดถ้วยแชมป์ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์แรงค์กิ้งไปแล้ว 36 โทรฟี่ เท่ากับ เฮนดรี้
นอกจากนี้ หาก รอนนี่ ทำได้ ยังจะทำให้นักสอยคิววัย 44 ปีรายนี้ กลายเป็นแชมป์โลกที่อายุมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก เรย์ เรียร์ดอน ตำนานสอยคิวชาวเวลส์ เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่ง เรียร์ดอน เป็นเจ้าของสถิติดังกล่าว จากการคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 1978 ด้วยวัย 45 ปี
สำหรับการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2020 รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันในระบบ 18 ใน 35 เฟรม หรือใครถึง 18 เฟรมก่อนจะเป็นผู้ชนะ ในวันที่ 15-16 สิงหาคมนี้ และการแข่งขันจะถูกแบ่งออกเป็น 4 เซสชั่น
วันที่ 15 สิงหาคม 63 จะแข่งขันในเซสชั่นที่ 1 และ 2 โดยเซสชั่นที่ 1 จะแข่ง 8 เฟรม ในเวลา 19.30 น.(ตามเวลาประเทศไทย), จากนั้นเซสชั่น 2 จะดวลคิวกัน 9 เฟรม ในเวลา 01.30 น.ของวันเดียวกัน
จากนั้นวันที่ 16 สิงหาคม 63 จะแข่งขันในเซสชั่นที่ 3 และ 4 โดยเซสชั่น 3 จะแข่งกัน 8 เฟรม ในเวลา 19.30 น.(ตามเวลาประเทศไทย) และปิดท้ายด้วยเซสชั่น 4 ซึ่งจะแข่งต่ออีก 10 เฟรม หรือจนจบการแข่งขัน ในเวลา 01.30 น.ของวันเดียวกัน
ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง
August 15, 2020 at 03:31PM
https://ift.tt/3kN6kcG
เกมดราม่าแห่งปี รอนนี่ พลิกนรกเข้าชิงกับ ไคเรน - สยามกีฬา
https://ift.tt/3cN12d5
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เกมดราม่าแห่งปี รอนนี่ พลิกนรกเข้าชิงกับ ไคเรน - สยามกีฬา"
Post a Comment