ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย ทั้งหมดอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยรวม 3,125 ราย หายป่วย 2,981 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตยอดจึงยังอยู่ที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ รายที่ 1 เป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 44 ปี เดินทางมาจากมาดากัสการ์ เป็นพนักงานบริษัท พักอาศัยในแคมป์มีหลายเชื้อชาติ เดินทางถึงไทยวันที่ 3 มิ.ย. และเข้าพักสถานที่กักตัวของรัฐใน กทม. วันที่ 4 มิ.ย. เริ่มมีอาการป่วย มีน้ำมูก และวันที่ 7 มิ.ย. ตรวจพบเชื้อ
หญิงไทยติดเชื้อจากบ้านสามี
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยรายที่ 2 เดินทางมาจากปากีสถาน เป็นหญิงไทยอายุ 34 ปี สามีเป็นชาวปากีสถาน พักกันเป็นครอบครัวใหญ่ มีคนในครอบครัวป่วย 5 คน รวมสามี วันที่ 6 มิ.ย. เดินทางมาถึงไทย เข้าพักสถานที่กักตัวของรัฐที่ กทม. วันที่ 4 มิ.ย.เริ่มมีอาการไอ มีน้ำมูก วันที่ 8 มิ.ย. ตรวจพบเชื้อ ผู้ป่วยรายที่ 3-4 เดินทางมาจากประเทศอินเดีย ทั้งคู่เป็นหญิงไทยอายุ 35 ปี โดย 1 ราย มีอาชีพพนักงานนวด วันที่ 4 มิ.ย.เดินทางมาถึงไทย พักสถานที่กักตัวของรัฐที่ จ.ชลบุรี วันที่ 7 มิ.ย. ตรวจพบเชื้อ สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 7,318,124 ราย และเสียชีวิต 413,648 ราย
ไร้ติดโควิดใน ปท. 16 วันแล้ว
ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้ไทยยังมีการคัดกรองคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศอย่างเข้มข้น ตั้งแต่อยู่ที่สนามบิน หากมีไข้สูงตั้งแต่ 37.3 องศาเซลเซียส ขึ้นไป จะถูกส่งไปยังโรงพยาบาล ที่อาการดีก็ให้อยู่ในสถานที่แยกกักของรัฐ เพื่อให้การดูแลและตรวจหาเชื้อโควิดอย่างน้อย 2 ครั้ง ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานผู้ป่วยในไทยล้วนมาจากสถานที่แยกกักทั้งสิ้น สิ่งที่สำคัญ แม้จะไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศติดต่อกัน 16 วันแล้ว แต่การ์ดอย่าตก เข้มงวดการสวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า
ย้ำสวมเฟซชิลด์ไม่ได้ช่วยกันเชื้อ
นพ.อนุพงศ์กล่าวด้วยว่า ขอย้ำว่าการสวมแค่เฟซชิลด์เพียงอย่างเดียวไม่ช่วยป้องกันการแพร่ หรือ รับเชื้อ นอกจากนี้ขอให้พกแอลกอฮอล์เจล เว้นระยะห่างจากคนอื่น 1-2 เมตร เพราะอาจจะยังมีคนติดเชื้อไม่มีอาการในชุมชนหลงเหลืออยู่ ระยะปลอดภัยคือ 2 เท่าของระยะฟักตัว นั่นหมายถึงต้องนานถึง 28 วัน ดังนั้นการเปิดกิจกรรม/กิจการต่างๆ ต้องค่อยๆทำ ค่อยๆเปิด โดยเฉพาะสถานศึกษาเร่งเตรียมความพร้อม เพื่อการเปิดเรียนอย่างปลอดภัย
ไทยจาก 8 ปท.ในยุโรปกลับเพียบ
อีกด้านที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ช่วงเช้า กลุ่มคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดใน 8 ประเทศของทวีปยุโรปและอเมริกาใต้ ได้แก่ เดนมาร์ก เบลเยียม ฟินแลนด์ สวีเดน นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ เม็กซิโก และซูรินาเม จำนวน 83 คน เดินทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ กลับไทยด้วยสายการบินเคแอลเอ็มแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ KL875 ในจำนวนนี้พบผู้โดยสารชาวไทยมีไข้ 1 คน เวลา 15.45 น. คนไทยที่ตกค้างในเขต บริหารพิเศษมาเก๊าและฮ่องกง รวม 116 คน กลับมาด้วยสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค เที่ยวบินที่ CX751 เวลา 19.10 น. สายการบินแอโรฟลอต เที่ยวบินที่ SU270 นำผู้โดยสารชาวไทยจากรัสเซีย เป็นคนทำงานและนักศึกษารวม 78 คน กลับไทย เที่ยวบินสุดท้ายเป็นกลุ่มคนไทยจากสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ รวม 220 คน กลับมาโดยสายการบินเอเชียนา แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OZ741
คัดกรองลูกเรือขนส่งสินค้า
ส่วนมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในต่างจังหวัด ที่ท่าเทียบเรือวิสิษฐ์พันวา อ.เมืองภูเก็ต พล.ร.ท.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) พร้อมคณะตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ ศรชล. ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศท่าเรือภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมคัดกรองลูกเรือไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ ที่มากับเรือ ST. THORFORTUNE เรือขนส่งสินค้าสัญชาติสิงคโปร์ จอดทอดสมอบริเวณท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ต.วิชิต ผลการตรวจลูกเรือทั้งหมดไม่มีไข้ และได้นำตัวลูกเรือทุกคนไปกักกันตัวที่โรงแรมแกรนด์สุพิชฌาย์ซิตี้ อ.เมืองภูเก็ต
ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งต่อเนื่อง
ส่วนการระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน 213 ประเทศหรือดินแดนทั่วโลก เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. มียอดผู้ติดเชื้อรวมทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 7.34 ล้านคน ผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 4.14 แสนคน รักษาหายดีแล้ว 3.62 ล้านคน ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก ยังอยู่ที่สหรัฐฯคือ 2.04 ล้านคน และ 1.14 แสนคน ตามลำดับ ขณะที่บราซิลมีผู้ติดเชื้อรวมมากเป็นอันดับ 2 ของโลก อยู่ที่ 7.42 แสนคน ผู้เสียชีวิต 3.84 หมื่นคน ส่วนรัสเซียมีผู้ติดเชื้อรวมเป็นอันดับ 3 ของโลก อยู่ที่ 4.93 แสนคน ผู้เสียชีวิต 6,358 คน
ชี้ระบาดใหญ่ยังไม่จบ
ดร.แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสโควิด-19 ของสหรัฐฯและที่ปรึกษาของทำเนียบขาว เตือนว่าการระบาดทั่วโลก (pandemic) ยังไม่สิ้นสุด แต่มั่นใจว่าจะพบวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 แน่ คำเตือนของ ดร.เฟาซีมีขึ้นขณะยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่รายสัปดาห์เพิ่มขึ้นใน 21 รัฐทั่วสหรัฐฯ รวมทั้งแคลิฟอร์เนีย อริโซนา ยูทาห์ และนิวเม็กซิโก ซึ่งอาจนำไปสู่การหวนกลับไปบังคับใช้มาตรการเข้มงวดด้านสาธารณสุขรอบใหม่
ศาลสั่งบราซิลเปิดข้อมูล
ขณะเดียวกัน ศาลฎีกาสั่งให้รัฐบาลบราซิล กลับมารายงานสถานการณ์การระบาดซึ่งรวมทั้งยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 บนเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง หลังยกเลิกไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วท่ามกลางข้อกล่าวหารัฐบาลของประธานาธิบดีฌาอีร์ บอลโซนาโร ซึ่งต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ว่าพยายามปกปิดข้อมูลการระบาด
ฝรั่งเศสแจงเปิดหอไอเฟล
ฝรั่งเศสแถลงเปิด “หอไอเฟล” แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงปารีส ในวันที่ 25 มิ.ย.หลังปิดมากว่า 3 เดือน ผู้เข้าชมต้องสวมหน้ากากอนามัยและให้ขึ้นบนหอได้แค่ชั้นแรก ส่วนพิพิธภัณฑ์ “ลูฟวร์” จะเปิดให้เข้าชมต้นเดือน ก.ค. ด้านพระราชวังแวร์ซาย เปิดให้คนเข้าชมแล้วตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. ทางด้านเยอรมนีขยายเวลาบังคับใช้คำเตือนภัยการเดินทางในประเทศ 160 ประเทศนอกยุโรปออกไปจนถึงสิ้นเดือน ส.ค. หลังใช้มาตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน เยอรมนีเพิ่งลดระดับคำเตือนภัยการเดินทางในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ทั้งหมด เช่นเดียวกับสวิตเซอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์และอังกฤษ
รัสเซียเปิดเมืองหลวง
ชาวรัสเซียในกรุงมอสโก ออกมาเที่ยวพักผ่อนเต็มสวนสาธารณะทั่วเมือง หลังเจ้าหน้าที่ยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์ที่บังคับใช้ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.ท่ามกลางความวิตกของหลายฝ่ายอาจเกิดการระบาดระลอกใหม่ในกรุงมอสโกซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของประเทศ
อาเซอร์ไบจานสู้ไวรัส
อาเซอร์ไบจานที่อยู่แถบเทือกเขาคอเคซัสติดรัสเซีย จอร์เจีย อาร์เมเนียและอิหร่าน พบเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 19 คน และยังพบเจ้าหน้าที่กระทรวงสถาน-การณ์ฉุกเฉินและกระทรวงแรงงาน ติดเชื้อด้วยอีกรวม 13 คน หลังยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินและผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดเมื่อวันที่ 31 พ.ค. เจ้าหน้าที่จะบังคับใช้คำสั่งอยู่แต่บ้านรวมทั้งปิดระบบขนส่งมวลชนและธุรกิจไม่จำเป็นในสุดสัปดาห์หน้า
WHO แตะเบรกปากีฯ
องค์การอนามัยโลก (WHO) ส่งหนังสือถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของปากีสถาน เรียกร้องให้ใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบหมุนเวียน เช่น บังคับใช้ 2 อาทิตย์ ผ่อนคลายอีก 2 อาทิตย์หลัง เพื่อลดความเสี่ยงระบบสาธารณสุขล่ม สถานการณ์การระบาดในปากีฯยังไม่เข้าเกณฑ์ยกเลิกล็อกดาวน์ ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นชัดเจนหลังรัฐบาลปากีฯขอให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นผ่อนคลายคำสั่งล็อกดาวน์ ส่วนยอดผู้ติดเชื้อรวมในปากีฯอยู่ที่ 113,702 คน ผู้เสียชีวิต 2,255 คน ด้านอินเดียมีผู้ติดเชื้อรวม 276,583 คน ผู้เสียชีวิต 7,745 คน
เกาหลีใช้คิวอาร์โค้ด
จีนซึ่งเป็นต้นตอการระบาดและเริ่มเปิดธุรกิจมาระยะหนึ่งแล้ว พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 คน ทั้งหมดเป็นผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้ผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 83,046 คน ผู้เสียชีวิต 4,634 คน เกาหลีใต้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 50 คน ส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรุงโซล เจ้าหน้าที่เริ่มให้ไนต์คลับ ร้านคาราโอเกะและสถานที่ฟิตเนสออกกำลังกาย ให้ใช้ระบบคิวอาร์โค้ดลงทะเบียนผู้มาใช้บริการเพื่อง่ายต่อการติดตามถ้าจำเป็น
สิงคโปร์ใช้เรมเดซิเวียร์
สิงคโปร์ที่มีผู้ติดเชื้อรวม 38,965 คน ผู้เสียชีวิต 25 คน อนุมัติให้ใช้ยาต้านไวรัส “เรมเดซิเวียร์” (remdesivir) ของบริษัทจีลีดในสหรัฐฯ รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีอาการร้ายแรง โดยเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดียและสหรัฐฯ อนุมัติใช้ยาตัวนี้ รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสมรณะมาก่อนแล้ว ด้านมาเลเซียที่มีผู้ติดเชื้อรวม 8,338 คน ผู้เสียชีวิต 118 คน เริ่มเศรษฐกิจและกิจกรรมทางสังคมเกือบทั้งหมดแล้ว หลังบังคับใช้คำสั่งล็อกดาวน์มาเกือบ 3 เดือน ส่วนฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อรวม 23,732 คน ผู้เสียชีวิต 1,027 คน อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อรวม 34,316 คน ผู้เสียชีวิต 1,959 คน
June 11, 2020 at 05:30AM
https://ift.tt/2MLMHlD
โลกป่วย 7 ล้านคน แต่ไทยไม่มีเชื้อระบาด 16 วันแล้ว ติดใหม่ 4 ศูนย์กักตัว - ไทยรัฐ
https://ift.tt/3cN12d5
Bagikan Berita Ini
0 Response to "โลกป่วย 7 ล้านคน แต่ไทยไม่มีเชื้อระบาด 16 วันแล้ว ติดใหม่ 4 ศูนย์กักตัว - ไทยรัฐ"
Post a Comment